คิดว่าการเปลี่ยนแปลงอะไรควรคิดให้รอบคอบและให้ผู้มีส่วนได้เสียได้ร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ ได้รับทาบทามให้ช่วย ร่างหลักสูตร ทันตาภิบาล 4 ปี มีความไม่สบายใจหลายอย่าง เขาประชุมไปแล้ว 1 ครั้งไม่สามารถไปร่วมได้ และจะประชุมอีกครั้ง(รู้สึกเป็นครั้งสุดท้าย) ก็เข้าไม่ได้อีก เพราะเขาเลื่อนการประชุมทำให้เข้าไม่ได้อีก แต่ได้ส่ง commentไปแล้ว ประเด็นที่ไม่สบายใจ ขอแสดงความกังวลไว้ตรงนี้นะคะ
1. กรอบภาระงานของทันตาภิบาลใหม่ (4ปี) ต่างจากทันตาภิบาล 2 ปีอย่างไร ??
2. ความก้าวหน้าของทันตาภิบาล 4 ปีเป็นอย่างไร คิดว่าจะช่วยแก้การไหลออกจากระบบอย่างไร ??
3. การที่คิดว่าประชาชนต้องการบริการการรักษาใกล้บ้านแลัวให้ทันตาภิบาล (4 ปี)ไปประจำที่สอ.แล้วเปิดรักษาจะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุและสร้างปัญหาใหม่หรือเปล่า เช่นมัวแต่รักษาจนไม่ได้ทำงานส่งเสริมคล้ายๆกับปัญหาในปัจจุบันในบางพื้นที่
4. การโอนให้ทันตาถิบาล อยู่ภายใต้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)หรือ สถานีอนามัย(สอ.) อาจทำให้ทันตาภิบาลต้องทำงานตามผู้บังคับบัญชาต้องการมากกว่าที่ควรจะเป็นจะดูแลอย่างไร
5.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้สอนในวสส.บางแห่งพบว่าผู้สอนไม่ถนัด และไม่สนใจงานทันตสาธารณสุขรวมทั้งงานส่งเสริมป้องกัน โดยพบว่าการเรียนต่อจะเน้นเรียนต่อด้านคลินิก บางครั้งเรียนด้านที่ไม่เกี่ยวกับที่ต้องสอนเช่น เรียน Prosthodontics และอาจารย์ใน วสส.จะมี turn over rate สูงทำให้เกิดการพัฒนาทำไม่ได้ ยิ่งหากปรับหลักสูตรแล้วไม่มีการเตรียมพร้อมอาจมีปัญหาเรื่องคุณภาพบัณฑิต
6.การย้ายออกไม่ได้มีเฉพาะทันตแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุขแต่ที่สำคัญกว่าในส่วนของอาจารย์ ทั้งใน วสส. และคณะต่างๆ โดยเฉพาะในภูธรมีการลาออกสูงและไม่มีใครอยากมาเป็นอาจารย์ ไม่มีโอกาสเลือกคนที่มีคุณสมบัติเป็นอาจารย์ที่ดีเหมือนเมื่อก่อนปัจจัยที่ทราบกันก็คือ อาจารย์สมัยนี้เป็นพนักงานของรัฐไม่มีสวัสดิการเหมือนข้าราชการ เงินเดือนมากกว่าข้าราชการเล็กน้อยแต่เมื่อเปรียบเทียบกับทันตแพทย์ในกระทรวงแล้วเราได้น้อยกว่า 2-3 เท่า (รวมเงินทุกอย่าง) แต่ถูกบีบด้วยตัวชี้วัดของสกอ. สารพัด
7. ในส่วนของการพัฒนางานทันตสาธารณสุขในประเทศไทย ในปัจจุบันอาจมีปัญหาหลักสูตรหลังปริญญาที่เปิด ไม่มีผู้เรียน หลายที่ต้องหันไปรับนักศึกษาต่างชาติ ไม่แน่ใจว่าผู้บริหารระดับชาติที่บอกว่าควรเน้นงานทันตสาธารณสุขได้มองเห็นปัญหาด้านนี้หรือไม่ ในส่วนของหลักสูตรที่กำลัง(เร่ง) ร่าง จากการอ่านเอกสารและหลักสูตรทันตา(4ปี)ใหม่ คิดว่ารายวิชาในหลักสูตร 4 ปี คล้ายกับหลักสูตร 2 ปี(ที่ปรับปรุงใหม่) มาก ทำให้ไม่แน่ใจว่าหลักสูตรที่ทำขึ้นใหม่ต้องการสร้างบัณฑิตลักษณะใด เป็นทันตาภิบาลซึ่งเรียนนานขึ้นหรือสร้างนักทันตสาธารณสุขหรือนักส่งเสริมสุขภาพช่องปาก
ในความคิดเห็นส่วนตัว อยากให้มีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากเดิมโดยอยากให้เป็นนักส่งเสริมสุขภาพช่องปาก ทำงานเชิงรุกมากๆเน้นการดูแลสุขภาพช่องปากของชุมชนมากกว่า สุขภาพช่องปากรายบุคคลมีความรู้ความสามารถในการส่งเสริมป้องกันการทำงาน โดยเน้นชุมชนมีส่วนร่วมและบูรณาการ มีความสามารถในการสื่อสารประสานงาน บริหารจัดการรวมทั้งสามารถวิเคราะห์วิพากษ์ องค์ความรู้ที่จะนำไปเผยแพร่ ส่งเสริมป้องกันโดยใช้หลักความรู้เชิงประจักษ์ (Evidence & based oral health promotion) ไม่อยากเห็นบัณฑิตของหลักสูตรนี้ทำงานรักษามากนัก เพราะอาจเป็นกับดักทำให้ต้องทำงานในคลินิกมากจนไม่สามารถทำงานเชิงรุกได้เต็มที่ ดังเห็นปรากฏการณ์นี้ในขณะนี้ได้ในทันตาภิบาลในบางพื้นที่ และมีความกังวลว่าหากต้องการให้บัณฑิตจากหลักสูตรนี้ทำงานได้หลายอย่างจะไม่มีจุดเด่น จุดขาย
อย่างไรก็ตาม หากต้องการเพิ่มทักษะการรักษา ควรเน้นการรักษาที่ช่วยป้องกันโรคเช่น Sealant PRR การให้ขูดหินปูนโดยไม่ให้ Root planning อาจเกิดโทษมากกว่าประโยชน์ และการสอนให้ฉีดยาแบบ Infiltrate อย่างเดียวเพื่อถอนฟันเป็นไปได้ยาก ปัจจุบันทราบมาว่าทันตาภิบาลหลายคนฉีดยาแบบ Nerve block ด้วย ดังนั้นน่าจะตัดทักษะการถอนฟันออกไปเลย ในเรื่องทักษะการรักษาในหลักสูตรใหม่นี้ควรมีการอภิปรายเชิงลึกให้มากกว่านี้ และอาจทำในวงกว้างกว่านี้ โดยอาจให้ทันตาภิบาลมีส่วนร่วมด้วย เพราะจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างและระบบทันตสาธารณสุขโดยรวมในอนาคต นอกจากนี้ควรเน้นให้บัณฑิตมีมุมมองที่กว้าง มีความคิดในการทำงานเพื่อส่วนรวม มีจิตสาธารณะดังนั้นอาจต้องเพิ่มรายวิชาในหมวดวิชาศึกษาทั่วไปในประเด็นเหล่านี้ โดยส่วนตัวมีความกังวลแนวโน้มต่างๆที่เริ่มเห็นเค้า การสร้างสิ่งใหม่ๆ เป็นสิ่งดีแต่ควรคิดให้รอบค่ะ อย่าให้ทำแล้วไปเพิ่มปัญหาในฐานะที่อยู่ในแวดวงนี้คิดว่า เราควรมีการพูดคุยเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง อยากจะฝากความหวังที่ทันตแพทยสภา และทันตกรรมชุมชน 8 สถาบัน และชมรมทันตาภิบาลจดหมายฉบับนี้ค่อนข้างยาว แต่เขียนจากใจค่ะ
ผศ.ดร. อังคณา เธียรมนตรี ม.สงขลานครินทร์
2 ความคิดเห็น:
เห็นด้วยกับความคิดของหมออังคณา เรื่องการผลิตหลักสูตรทันตาภิบาลพันธุ์ใหม่ 4 ปี วัตถุประสงค์หลักคือเพื่อเพิ่มความก้าวหน้าของทันตาภิบาล 2 ปี แต่หากมีการผลิตไปแล้วจุดขายที่ออกมายังเน้นการรักษาเหมือนเดิมก็ไม่แตกต่าง..น่าจะปรับตั้งแต่การทำความเข้าใจของบทบาทหน้าที่ของทันตาคนใหม่ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องเช่น หัวหน้าสอ. พยาบาล ผู้ใหญ่บ้าน อบต.เป็นต้นรับทราบด้วย เพื่อจะได้ไม่สับสนเมื่อต้องลงไปปฏิบัติงานจริงของน้องจบใหม่..ทีนี้ขออ้างถึงความก้าวหน้าของวิชาชีพที่เริ่มมาจากเรียน 2 ปี เหมือนกันอย่างเจ้าพนักงานสาธารณสุขชุมชน ไม่ทราบว่าภาระงานของเขาในพรบ.ฉบับใหม่ต่างจากเดิมอย่างไร ถึงมีความก้าวหน้ากว่าทันตาฯหรือจพ.เภสัชฯ ???????
ขอบคุณมาก ๆ นะครับ
แสดงความคิดเห็น