วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ภัยเงียบจากโรงแยกก๊าซและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง


โดย หมอปลิวจากแดนใต้


การพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศที่กำลังพัฒนานั้น มีปัญหาข้างเคียงตามมามากมาย และปัญหาที่ใหญ่ที่สุดปัญหาหนึ่งที่เป็นที่รับรู้ของผู้คนทั่วไปก็คือ มลพิษจากอุตสาหกรรม มีคำอยู่คำหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมอ้างอิงของภาคอุตสาหกรรมนั้นคือ คำว่า ไม่เกินค่ามาตรฐานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีความหมายว่า ด้วยความรู้ที่มีอยู่ในขณะนี้ ความเข้มข้นขนาดดังกล่าวของสารนั้นๆ เชื่อว่าไม่เกิดอันตรายต่อสุขภาพต่อผู้สัมผัส ซึ่งมาตรฐานในแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ทางยุโรปมาตรฐานสูงคือ ค่ามาตรฐานจะต่ำมาก และมีแนวโน้มต่ำลงไปเรื่อยๆ เพราะมีข้อมูลใหม่มาบ่งชี้ความเป็นพิษต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

คำว่า “การปล่อยมลพิษจากโรงงานนั้น ไม่เกินค่ามาตรฐาน” นั้นเป็นคำที่แสลงใจชุมชนรอบข้างอย่างที่สุด เพราะเป็นการมองอย่างแยกส่วน มี 5 โรงงานที่อยู่ในละแวกเดียวกัน ทุกโรงงานปล่อยของเสียไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่จมูกของเรา ผิวหนังของเรา ลำคลองของเรา ปลาในคลองและควายในนาของเรา เป็นองค์รวม เพราะจะกี่โรงงานที่ไม่เกินมาตรฐาน ล้วนเข้าจมูก 2 รูที่เป็นองค์รวมของเรา แม้จะไม่เกินมาตรฐาน แต่หากได้รับสารเหล่านี้ครั้งละน้อยๆเป็นเวลานานนั้น มักไม่มีใครกล้ารับรองว่าจะไม่เป็นอะไร เพราะมักไม่มีใครทำงานวิจัยที่ต้องเก็บข้อมูลยาวนานขนาดนั้น

สารพิษและมลพิษจากอุตสาหกรรมนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่ทำได้ก็คือการควบคุมให้น้อยที่สุดเท่านั้น แต่การควบคุมให้ดีนั้นมีต้นทุนที่สูง ทำให้โรงงานต่างๆมักไม่อยากแบกรับภาระอันนี้

ปัญหาการรับมลพิษในขนาดน้อยๆ แต่ต่อเนื่องยาวนาน หรือที่ศัพท์ทางวิชาการเรียกว่า Chronic Low Dose Exposure นั้นน่ากลัวกว่าข่าวคราวการรั่วไหลของสารพิษ การปล่อยน้ำเสียกลิ่นเหม็นสีน่าเกลียดสู่ลำคลอง การปล่อยควันพิษตามปล่องโรงงาน หรือการระเบิดไฟไหม้ต่างๆ เป็นปัญหาของการได้รับพิษหรือผลกระทบอย่างเฉียบพลัน ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ตระหนัก และรับรู้ในอันตราย เพราะเดือดร้อนเห็นๆ ทำให้มีโอกาสที่ปัญหาจะได้รับการแก้ไข

แต่ปัญหาทางมลพิษที่น่ากลัวกว่าคือ การได้รับพิษครั้งละน้อยๆแต่บ่อยๆเป็นระยะเวลานานๆ เพราะไม่มีใครในชุมชนรู้ว่าตนได้รับสารพิษอยู่ และมักจะไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้โดยง่าย การได้รับสารเคมีที่เป็นพิษในปริมาณที่น้อยๆอย่างต่อเนื่องนั้น ไม่ว่าผ่านการกิน การหายใจ หรือการสัมผัสทางผิวหนัง เป็นเวลานานๆ สิบปี ยี่สิบปี
ผลกระทบที่เกิดกับร่างกายมีอยู่ 2 ประเด็นใหญ่ๆคือ
1.ทำให้เกิดการระคายเคืองต่ออวัยวะที่ได้รับสารนั้นๆ นานเข้าก็มีการกลายของเซลล์ในอวัยวะนั้นๆ กลายเป็นมะเร็งขึ้นมา
2.ทำให้เกิดความเสื่อมในการทำหน้าที่ของอวัยวะนั้นๆ เช่นไตทำงานได้น้อยลงจากการสะสมของปรอทในไต สมองเสื่อมปัญญาอ่อนจากพิษตะกั่ว เป็นต้น

มลพิษในวันนี้มีมากมาย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขควรมีความเข้าใจต่อคำว่า “ไม่เกินค่ามาตรฐาน” ว่าถึงน้อยก็มีโทษมีพิษภัย ค่าปริ่มๆจะเกินค่ามาตรฐานแม้จะยังไม่เกินย่อมน่ากลัวกว่าค่าที่น้อยๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทุกคนในฐานะพลโลกควรต้องช่วยกันทำให้สารเคมี สารพิษ มลพิษ ให้เกิดน้อยที่สุด

วกกลับมาในช่องปาก สำหรับในงานทันตกรรมนั้นก็น่าจะมีสารเคมีหลายตัวที่เป็นความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิด chronic low dose exposure ได้ ซึ่งอาจเป็นโจทย์ที่ทั้งคนทำงานเองก็ควรต้องระมัดระวังการสัมผัส รวมทั้งระวังในการทิ้งการทำลายไม่ให้มีโอกาสปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม เราคนรุ่นใหม่ใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม เป็นความงดงามในท่ามกลางมลพิษมากมายที่ไม่เกินค่ามาตรฐาน

0 ความคิดเห็น: