วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ปิ่นโตเถาเดียวไม่เกี่ยวกับลดโลกร้อน



โดยใบสะเดาสด

...ปลายปี 50 อากาศชานกรุงเริ่มเย็นแล้วค่ะ ข่าวว่าหนาวนี้กรุงเทพจะหนาวจัดกว่าปีก่อนๆ ว่ากันว่าอุณหภูมิจะลดต่ำลงจนแตะระดับ 16 องศากันเลยทีเดียว ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะคะ หมอดูคนดังที่เคยทำนายว่าจะเกิดสึนามิ ทำนายว่าปีหน้าเมืองไทยหิมะจะตก อะไรจะขนาดนั้น !!! จริงหรือที่เขาว่าเพราะ “ โลกร้อน ” จึงเกิดภาวะอากาศปั่นปวนรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก...

จากหนังสือ “ โลกร้อน ทุกสิ่งที่เราทำเปลี่ยนแปลงโลกเสมอ ” ของมูลนิธิโลกสีเขียว อธิบายง่ายๆว่า “ โลกร้อน ” หรือ global warming เป็นคำที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในความหมายของการเปลี่ยนแปลงในระดับโลกอันเป็นผลมาจาก กิจกรรมของมนุษย์ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ (ก๊าซเรือนกระจกส่วนใหญ่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง ประกอบด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ 53%)

หลายท่านอาจยังสงสัยว่าแล้วโลกมันร้อนขึ้นได้อย่างไร ก็เป็นเพราะว่าพลังงานแสงอาทิตย์ เมื่อเดินทางมาถึงโลกในรูปของแสงแดด จะถูกดูดซับโดยแผ่นน้ำและแผ่นดิน จากนั้นผิวโลกจะคายพลังงานความร้อนออกมาในรูปของ รังสีอินฟราเรด แล้วส่งกลับคืนสู่อวกาศ แต่ถ้าในชั้นบรรยากาศมีปริมาณก๊าซเรือนกระจกมากเกินไป พลังงานความร้อนที่ควรจะสะท้อนออกไปนอกโลก กลับถูกดูดซับไว้ในชั้นบรรยากาศ ทำให้อุณหภูมิของผิวโลกสูงขึ้น และยิ่งมีก๊าซเรือนกระจกมากขึ้นโลกก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆ

หากเรายังปล่อยให้เกิดภาวะโลกร้อนโดยใช้ชีวิตแบบเดิมๆ สิ่งที่ตามมาก็คือ จะเกิดความแปรปรวนของดินฟ้าอากาศ ผู้คนจะขาดแคลนอาหาร ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยละลาย เกิดน้ำท่วมบ่อยขึ้น แม่น้ำหลายสายแห้งเหือด แหล่งน้ำจืดลดลง เกิดความแห้งแล้ง เกิดโรคระบาด อัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของผู้คนจะเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก !! น่าตกใจไหมคะ โลกในอนาคตอีกไม่กี่ 10 ปีของเราทุกคน แล้วเราจะนิ่งดูดายแบบนี้หรือ...เราควรทำอย่างไรเพื่อช่วยโลกของเราอย่างไม่ให้ร้อนเร็วไปกว่านี้อีก ???

เราต้อง ลด ละ เลิก สิ่งที่อาจเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน เช่นลดการใช้พลังงาน ถอดปลั๊กเครื่องไฟฟ้าหลังเลิกใช้งาน ลดการเผาไหม้ ลดขยะ ยังมีอีกหลายวิธีที่เราทุกคนทราบดีกันอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือเราลงมือทำอย่างจริงจังแล้วหรือยังคะ ดิฉันเองพยายามลดการใช้ถุงพลาสติกภายในบ้าน เพราะถุงพลาสติกเป็นสาเหตุหลักของการเพิ่มขยะเลยค่ะ ถุงพลาสติกใช้เวลาย่อยสลายในธรรมชาตินานมาก เราจึงต้องใช้วิธีการเผาเพื่อทำลายถุงพลาสติกไม่ให้ล้นโลก

ทุกท่านทราบแล้วว่าการเผาไหม้นี่เองที่สร้างภาวะก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศและทำให้โลกร้อนขึ้น การลดใช้ถุงพลาสติกจึงเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างง่ายๆ ที่ใครๆก็ทำได้ค่ะ ซึ่งแรกๆบางอย่างอาจต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทำใจบ้างเล็กน้อยนะคะ เช่นเรื่องการใช้ปิ่นโตของดิฉันค่ะ

แทบทุกเช้าดิฉันจะไปซื้ออาหารจากร้านข้าวแกงเจ้าประจำมาทานที่บ้าน ก็เริ่มเลยค่ะ ยิ้มละไมพร้อมถือปิ่นโตอย่างมั่นใจไปบอกแม่ค้าว่า จะช่วยประหยัดถุงพลาสติกนะคะ วันนี้เอาปิ่นโตมาใส่กับข้าวอร่อยๆของป้าแทนค่ะ แรกๆนอกจากความงุนงง บ่นอุบบ่นอิบของแม่ค้า ตัวดิฉันเองก็ออกจะเขินๆพอสมควรค่ะ ก็แหมลูกค้ากับข้าวร้านป้าก็คนไข้คนคุ้นเคยทุกคนรู้จักดิฉันหมอฟันในซอยกันทั้งนั้นนี่คะ ยังไงก็ต้องกล้าต้องลองค่ะ




สังเกตว่าคนที่พบเจอทักทายถึงการใช้ปิ่นโตของดิฉันเป็นระยะๆ ใครๆก็ทราบดีกันอยู่แล้วว่าการใช้ปิ่นโตช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกและเป็นการลดภาวะโลกร้อนอีกวิธีหนึ่ง จากวันเป็นสัปดาห์จากสัปดาห์เป็นเดือนและผ่านมาเป็นเวลาหลายเดือน จนบัดนี้ทุกคนต่างคุ้นชินกับปิ่นโตเถาเดียวเถานี้และเลิกทักกันไปหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครใช้ปิ่นโตเป็นเพื่อนดิฉันเลยค่ะ ...!!!...

ถึงอย่างไรดิฉันก็ยังขอยืนยัน ว่าการใช้ปิ่นโตสามารถช่วยลดขยะถุงพลาสติกที่มีกลิ่นอาหารได้จริงๆค่ะ ที่สำคัญถุงพลาสติกกับอาหารร้อนๆก็ไม่ดีต่อสุขภาพของ ผู้รับประทานอีกด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นประโยชน์ที่ดิฉันได้รับโดยตรงค่ะ น่าเสียดายที่ลำพังปิ่นโตเถาเดียวในซอยของดิฉัน คงมิอาจเอื้อมไปอ้างถึงอานิสงค์อันประเสริฐขนาดจะช่วยลดโลกร้อนได้หรอกค่ะ

หวังเพียงแค่(อาจจะ) เป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆให้ผู้คนได้มองเห็น ให้ความสำคัญและช่วยกันคนละเล็กคนละน้อย ก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกของเราให้ดีขึ้นได้ค่ะ

มหาตมะ คานธี กล่าวไว้ว่า “ การกระทำของเธอ อาจจะไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่แต่สิ่งสำคัญที่สุดนั้นอยู่ที่เธอได้ลงมือทำมันแล้วต่างหาก ”


0 ความคิดเห็น: