วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สนุกเขียน...สนุกอ่าน : หญิงไทยนั้นหรือ....คือผู้มั่นคงในความรัก



โดย ทพ.รัชภูมิ เผ่าเสถียรพันธ์ (หมอช้าง)


ผู้เขียนเคยได้ยินเสมอเรื่อง ดูละครแล้วย้อนดูตัว ความมั่นคงในความรักของหญิงไทยที่เป็น กุลสตรีในละครไทยตัวอย่าง เช่น อมฤตาลัย เจ้าหญิงพันทุมเทวี รอคอยนานเป็นพันๆปีที่จะได้เจอนักรบหนุ่มอันเป็นที่รัก ภายหลังอาณาจักรขอมล่มสลาย บางคนบอกว่านั่นมันเจ้าหญิงขอม แต่ผู้เขียนรู้มาว่าคนแต่งเรื่องนั้นเป็นคนไทย หรือในละครเรื่อง อนิลทิตตา เจ้าหญิงแคว้นเชียงแสน หรือเชียงรุ้ง ที่ในวันนี้ไม่มีเสียแล้ว เจ้าหญิงผู้พ่ายแพ้แก่ความรักเฝ้ารอคอยชายอันเป็นที่รักผ่านการบวงสรวง พิธีกรรมต่างๆจนเป็นเหมือนปีศาจ แม่มด เพื่อจะรอคอยโอกาสกลับมาเจอชายอันเป็นที่รัก แล้วกลับมาแก้ไขเรื่องราวในอดีต และอีกหลากหลายบทบาท คุณผู้อ่านล่ะครับ คุณเคยคิดถามตัวเองหรือไม่ ว่าจะสามารถรักใครมากจนรอคอยนานแสนนานโดยไม่ผันแปรได้หรือไม่ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้สูงอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ทั้งชายและหญิง ในกรุงเทพฯ โดยถามคำถามว่า "หากกลับชาติมาเกิดใหม่ได้ หญิงไทยสูงอายุคิดอย่างไรกับการเลือกคู่ชีวิตคนเดิม"

คำตอบที่น่าตกใจคือ จำนวนหญิงสูงอายุที่สำรวจ มีอยู่เพียงร้อยละ 35 หรือเพียงหนึ่งในสามจะเลือกชายคนเดิมเป็นคู่ชีวิตอีก ส่วนที่เหลือคือร้อยละ 65 ตอบว่าไม่เลือก หรือไม่แน่ใจ (ไม่เลือกแน่นอนร้อยละ 34 คน และไม่แน่ใจร้อยละ 31) สำหรับชาย ผลสำรวจที่ได้ก็น่าสนใจอีกเช่นกัน ในจำนวนชายสูงอายุนั้น ร้อยละ 46 ตอบว่าจะเลือกคู่ชีวิตคนเดิม ในขณะที่ร้อยละ 54 ตอบว่าไม่เลือก หรือไม่แน่ใจ (ไม่เลือกแน่นอนร้อยละ 20 คน และไม่แน่ใจร้อยละ 34)

เมื่อได้เห็นผลจากโพลแล้วก็เกิดคำถามขึ้นในใจหลายคำถาม เช่นเหตุใดหญิงจึงเลือกชายคนเดิมน้อย? เหตุใดหญิงจึงเลือกชายคนเดิม น้อยกว่าที่ชายเลือกหญิงคนเดิม? เอ! หรือว่า ผู้หญิงแบบตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้จะหายไปไหนกันหมด ถ้าถามคำถามเดียวกันนี้กับชายหญิงในวัยอื่น จะได้คำตอบทำนองเดียวกันหรือไม่? สภาวการณ์ที่หญิง มักไม่เลือกชายคนเดิมนี้ เป็นมานานแล้วหรือไม่ และกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด? ชายไทยเป็นคู่ชีวิตที่ไม่ดี ตามที่หญิงสูงอายุไทยมองจริงหรือไม่ ? เราอาจจะต้องยอมรับความจริงบ้างว่า ชายไทยหลายคนเป็นประเภทขุนแผนคือ สะโพกไว เจ้าชู้ เห็นคนสวยเป็น หูตูบ หรือบางรายเป็นประเภท sex addict ทำนองคลำดูไม่มีหางเป็นเก็บเรียบ กินเหล้าเมายาไม่ว่าวันไหนพี่ไทยก็เมา เล่นการพนัน จนมีส่วนทำให้สัดส่วนที่หญิงเลือกคู่ชีวิตคนเดิมต่ำ ในขณะที่เมื่อเทียบกับหญิงแล้ว ปัญหาเหล่านี้มีน้อยกว่า จนทำให้สัดส่วนที่ชายเลือกคู่ชีวิตคนเดิมสูงกว่า

ข้อมูลที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือ ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งเบื่อ ยิ่งอายุสูงขึ้นมีแนวโน้มที่จะเลือกคู่ชีวิตคนเดิมน้อยลงเป็นลำดับ แปลว่า กล่าวคือทั้งชาย และหญิงรวมกันในช่วงอายุ 60-64 ปี จะไม่เลือกคู่ชีวิตเดิมร้อยละ 43 แต่ในช่วงอายุ 65-69 ปี สัดส่วนดังกล่าวเหลือร้อยละ 42 และในช่วงอายุ 70 ปีขึ้นไป สัดส่วนดังกล่าวเหลือเพียงร้อยละ 37 นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ระดับการศึกษาของผู้ตอบมิใช่เป็นตัวอธิบายว่าจะทำให้เลือกคู่ชีวิตคนเดิมมากขึ้นหรือน้อยลง และเป็นเรื่องดีที่เมื่อไม่นานมานี้ นิตยสาร JAPAN CLOSE-UP ได้ตีพิมพ์บทความเชื่อ JAPANESE WOMEN CHANGING WITH TIMES ซึ่งได้มีการสำรวจความเห็นหญิงญี่ปุ่นในคำถามเดียวกัน และพบว่าร้อยละ 28 ของหญิงญี่ปุ่น ปรารถนาจะเลือกชายคนเดิม เป็นคู่อีกครั้ง ส่วนอีกร้อยละ 72 (ร้อยละ 28 ตอบว่าไม่เลือก และร้อยละ 44 ตอบว่าไม่แน่ใจ)

ทำให้ใจชื้นได้ว่าอย่างน้อยชายไทยก็ราศีดีกว่าหนุ่มแดนอาทิตย์อุทัย เพราะเมื่อเทียบเคียงตัวเลขร้อยละ 35 ของหญิงไทยสูงอายุ และตัวเลขร้อยละ 28 ของหญิงญี่ปุ่น ที่แสดงความเห็นว่าจะไม่เลือกคู่ชีวิตคนเดิม ถ้าเป็นชาตินิยมหน่อยก็ต้องบอกว่า ในสายตาของภรรยา สามีไทยน่ารักมากกว่าสามีญี่ปุ่นจริงไหมครับ หลายครั้งที่เราชอบบอกกันมานานว่า "มีเมียญี่ปุ่น อยู่บ้านฝรั่ง กินอาหารจีน" เพราะภาพพจน์ของภรรยาญี่ปุ่นที่อ่อนโยนผ่อนปรนตามสามี ซื่อสัตย์ต่อสามี ปรนนิบัติรับใช้สามี เหมือนภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่องล่าสุด เรื่องนางโลมโลกจารึกหรือ memory of Geisha แต่ในปัจจุบัน หากใครพบหญิงญี่ปุ่นที่มีลักษณะเช่นนี้ในวัยต่ำกว่า 60 ปี ก็เรียกได้ว่า อัศจรรย์ใจอย่างยิ่งเพราะเธอได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใน 30-40 ปีที่ผ่านมา เฉกเช่นเดียวกับผู้หญิงในยุโรป และอเมริกา ไม่ได้เป็นเช่นโอชินในอดีตอีกต่อไป

การถอดถุงเท้ารองเท้าให้สามีเวลากลับจากงาน ป้อนปลาที่เอาก้างออกแล้วด้วยตะเกียบ อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนเลี้ยงดูลูกอยู่คนเดียว พร้อมกับทำงานบ้านอย่างทุ่มเทสุดตัว เป็นสิ่งที่สูญหายไปจากญี่ปุ่นแล้ว ปัจจุบันแม่บ้านญี่ปุ่นเกินกว่าครึ่งหนึ่ง ที่ทำงานนอกบ้าน พร้อมกับมีความเท่าเทียมกับผู้ชายมากขึ้นในเรื่องการศึกษา โอกาสในความก้าวหน้าในงาน สิทธิทางกฎหมาย ปรากฏการณ์แปลกอันหนึ่งที่กำลังเกิดขึ้นก็คือ การหย่าร้างแบบที่เรียกว่า "RETIREMENT DIVORCES" พร้อมกับสถิติฝ่ายหญิงเป็นคนริเริ่มการหย่าร้างเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัว
ในเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เพราะ หลังวัยเกษียณอายุของสามี เขาอยู่บ้านกับภรรยาทั้งวัน หลังจากที่ไม่เคยอยู่บ้าน เขาจะสั่งให้เธอทำโน่นทำนี่ ราวกับท่านเจ้าคุณสั่งทาสอีเย็นทั้งวัน และบ่นว่าทุกสิ่งที่เธอทำ และดูเหมือนว่าจะไม่นึกขอบคุณในสิ่งที่เธอทำให้เลย การปฏิเสธไม่เลือกคู่ชีวิตเดิมของหญิงไทย และญี่ปุ่นสะท้อนให้เห็นภาพบางอย่าง ที่อยู่ในใจของทั้งชายและหญิง ที่สมควรนำไปไตร่ตรองอยู่ไม่น้อย แต่ไม่ต้องคิดให้ไกลเกินตัวไปนัก ทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่าครับ

อย่าให้แฟนเราว่าได้ว่า " อย่าว่าแต่ชาติหน้า หรือชาติไหนเลย ชาตินี้ฉันก็ไม่เอามันแล้ว "

0 ความคิดเห็น: