1 แนวคิด หลักการ การจัดบริการปฐมภูมิ
“ ดูแลแต่แรกทุกเรื่อง ต่อเนื่องเบ็ดเสร็จ บริการเข้าถึงสะดวก บวกระบบปรึกษาและส่งต่อ ”
2 เป้าหมายของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
2.1) ทุกคนมีหลักประกันในการเข้าถึงการบริการสุขภาพ ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ป้องกันการล้มละลายจากโรคค่าใช้จ่ายสูง2.2) สนับสนุนการพัฒนาหรือปฏิรูประบบบริการสุขภาพให้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองประชานได้มากขึ้น
3 สถานการณ์ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
3.1) ความครอบคลุมการมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปี 2550 มีประชาชนลงทะเบียนจำนวนประมาณ 46.67 ล้านคน อัตราความครอบคลุมร้อยละ 98.75
3.2) การเข้าถึงบริการของประชาชน โดยพิจารณาจากอัตราการใช้บริการผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ตั้งแต่ปี 2545 – 2550 พบว่า มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยในปี 2550 มีอัตราการใช้บริการผู้ป่วยนอก 2.75 ครั้ง/คน/ปี และผู้ป่วยใน 0.10 ครั้ง/คน/ปี ความพึงพอใจต่อระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยมีสำรวจทุกปีตั้งแต่ปี 2546 – 2550 ในประชากร 2 กลุ่ม คือ กลุ่มประชาชน และกลุ่มผู้ให้บริการ ซึ่งพบว่า ในกลุ่มประชาชน มีแนวโน้มอัตราความพึงพอใจสูงขึ้น จากร้อยละ 78.90 ในปี 2546 เป็น ร้อยละ 83.16 ในปี 2550 ส่วนในกลุ่มผู้ให้บริการ พบว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ แต่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากร้อยละ 45.66 ในปี 2546 เพิ่มเป็นร้อยละ 56.57
3.3) งบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ได้รับจากรัฐบาล มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากตั้งแต่ปี 2550 พิจารณาจากอัตราเหมาจ่ายรายหัว ในปี 2545 เป็น 1,202.40 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 2,217.50 บาท ในปี 2552 โดยมีวงเงินงบประมาณ 108,065 ล้านบาท
3.4) ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีการพัฒนาระบบบริการใหม่ๆ ได้แก่ การบริการการแพทย์ฉุกเฉิน บริการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ บริการแพทย์แผนไทยและทางเลือก บริการโรคค่าใช้จ่ายสูง บริการยาต้านไวรัสเอชไอวี/เอดส์ และบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ฯลฯ เป็นต้น
4ทิศทางของ สปสช.ในการสนับสนุนการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ
4.1) สนับสนุนการพัฒนาระบบบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคเอดส์ วัณโรค และการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ และผู้สูงอายุในชุมชน)
4.2) สนับสนุนการพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิทั้งในเขตเมืองและเขตชนบท โดยสนับสนุนให้มีแพทย์เวชปฏิบัติครอบครัวในศูนย์แพทย์ชุมชน สนับสนุนให้ศูนย์สุขภาพชุมชน หรือสถานีอนามัย มีพยาบาลเวชปฏิบัติทั่วไป พยาบาลวิชาชีพ และทันตาภิบาลปฏิบัติงานประจำ
4.3) สนับสนุนการพัฒนาระบบบริการตติยภูมิระดับสูง โรคมะเร็ง หัวใจ ภาวะฉุกเฉิน และไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
4.4) สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานระบบบริการสุขภาพ เน้นการเพิ่มและสร้างแรงจูงใจให้บุคลากรผู้ให้บริการ
5แนวทางสนับสนุนการพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ ของ สปสช.
5.1) มติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 กำหนดมีนโยบายในการสนับสนุนการเร่งรัดพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ ดังนี้
5.1.1) ให้เน้นหนักในการสนับสนุนระบบบริการปฐมภูมิ โดยมีนโยบายการเงินให้งบบริการผู้ป่วยนอก (OP) และงบส่งเสริมป้องกัน (P&P) ส่วนที่ดำเนินการโดยหน่วยบริการปฐมภูมิ เหมาจ่ายตรงให้หน่วยบริการ หรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิที่พัฒนาผ่านเกณฑ์แล้ว
5.1.2) มีแผนลงทุนขยายและพัฒนาระบบบบริการปฐมภูมิและกำลังคนอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
5.1.3) มีการพัฒนาระบบบริหารจัดการและระบบสนับสนุนต่างๆให้เอื้อต่อการจัดบริการปฐมภูมิ
5.2) เป้าประสงค์ ระบบบริการปฐมภูมิเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ครอบคลุม มีคุณภาพมาตรฐาน สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ เป็นที่ยอมรับของประชาชนและสังคม
5.3) งบประมาณ แหล่งงบประมาณที่ใช้ในการพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ มาจากหลายแหล่ง ตัวอย่างปีงบประมาณ 2551 มีดังนี้
5.3.1 ) งบเหมาจ่ายรายหัว ส่วนบริการผู้ป่วยนอก OP (645 บาท/คน)
5.3.2 ) งบลงทุนเพื่อการทดแทน 75%
5.3.3 ) งบลงทุนพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ 15% (ประมาณ 1,000 ล้านบาท/ปี)
5.3.4 ) กองทุน อบต./เทศบาล (37.50 บาท/คน และงบ อปท.)
5.3.5 ) งบปกติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
5.4) แนวทางการพัฒนา
5.4.1) โรงพยาบาลชุมชน
ปรับบทบาทของโรงพยาบาลชุมชน จากเดิมเน้นการขยายเพิ่มจำนวนเตียง และยกฐานะ การพัฒนาบริการเฉพาะทาง / ผ่าตัด / ICU สู่บริการเวชศาตร์ครอบครัว ทันตกรรม กายภาพบำบัด งานชุมชน เน้นบทบาทสร้างเครือข่ายบริการปฐมภูมิและร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง คนพิการ ผู้สูงอายุ และปัญหาสุขภาพอื่นในชุมชน? บทบาททันตแพทย์ รพ.ชุมชน เน้นเพิ่มศักยภาพให้เป็นผู้นำทีมงานทันตสาธารณสุขของพื้นที่
5.4.2) ศูนย์แพทย์ชุมชน
- สถานที่ตั้ง เน้นเขตเมืองและชนบทที่เป็นศูนย์กลางคมนาคม
- ให้มีบุคลากรที่มีความพร้อม ได้แก่ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว พยาบาลเวชปฏิบัติ/พยาบาลวิชาชีพ ทันตแพทย์/ทันตาภิบาล นักสังคม/พฤติกรรม/สุขภาพชุมชน/กิจกรรม
5.4.3) ศูนย์สุขภาพชุมชน/สถานีอนามัย
- เน้นพัฒนาศักยภาพ ให้เป็นสถานีอนามัยขนาดใหญ่ หรือ โรงพยาบาล 2,000 เตียง
- โดยให้มีบุคลากรประเภทต่างๆ ได้แก่ พยาบาลเวชปฏิบัติ/พยาบาลวิชาชีพ นักวิชาการสาธารณสุข/หมออนามัย ทันตาภิบาล นักสังคม/พฤติกรรม/สุขภาพชุมชน/กิจกรรม
5.4.4) หน่วยร่วมให้บริการ สถานบริการที่มีบริการไม่ครบตามเกณฑ์หน่วยบริการปฐมภูมิ หรือเป็นหน่วยบริการเฉพาะด้าน สามารถเข้าร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้ ได้แก่ คลินิกเวชกรรม , คลินิกทันตกรรม , ร้านยาคุณภาพ , สถานพยาบาลแพทย์แผนไทย / แพทย์ทางเลือก , หน่วยบริการอื่นๆ
5.5) สรุปเป้าหมายการขยายบุคลากรหน่วยบริการปฐมภูมิ
- แพทย์เวชปฏิบัติครอบครัว ในศูนย์แพทย์ชุมชน 500 แห่ง
- ทันตแพทย์แนวใหม่ ในโรงพยาบาลชุมชน 900 แห่ง
- พยาบาลเวชปฏิบัติ(ต่อยอด) ในศูนย์แพทย์ชุมชน 500 แห่ง / โรงพยาบาลตำบล 2,000 แห่ง
- พยาบาลวิชาชีพ(ใหม่) ในโรงพยาบาลตำบล 2,000 แห่ง / สถานีอนามัย 8,000 แห่ง
- นักกายภาพบำบัด ในโรงพยาบาลชุมชน 900 แห่ง
- ทันตาภิบาล ในโรงพยาบาลตำบล 2,000 แห่ง / สถานีอนามัย 8,000 แห่ง ? สุขภาพชุมชน / Social Worker ในสถานีอนามัย 8,000 แห่ง
6สรุปแนวทางการสนับสนุนงานทันตสาธารณสุข ของ สปสช.
6.1) ทบทวนชุดบริการและสิทธิประโยชน์ รวมทั้งการชดเชยค่าบริการทันตสุขภาพในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
6.2) พัฒนาศักยภาพทันตแพทย์โรงพยาบาลชุมชน ให้เป็นผู้นำทีมงานและการดูแลระบบทันตสาธารณสุขของพื้นที่
6.3) การผลิตทันตแพทย์แนวใหม่ที่เหมาะกับการทำงานในโรงพยาบาลชุมชน และพื้นที่
6.4) พัฒนาศักยภาพของทันตาภิบาลเดิม และการผลิตทันตภิบาลหลักสูตรใหม่สี่ปี ที่เหมาะสมงานบริการปฐมภูมิ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น