วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2552

ควันหลงจากการประชุม ชี้แจงการเบิกเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายโรงพยาบาลชุมชน

เมื่อ วันที่ 25 ธันวาคม 51 ณ โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท
ศูนย์การค้า เซียร์รังสิต จังหวัดปทุมธานี

รายงานโดย ทพ.ธนารัตน์ เรืองสุข


1. เนื้อหาการประชุม : เหมือนที่มีในจดหมายจากชมรมแพทย์ชนบท เรื่องเส้นทางสู่เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย : Make impossible possible แต่การเชิญรัฐมนตรีมาเพื่อช่วยยืนยันว่าสิ่งที่ปลัดกระทรวงฯทำไปถูกต้องตามระเบียบและสามารถทำได้

2. บรรยากาศการประชุม : มีการทำงานเป็นทีมอย่างเข้มแข็ง ชัดเจน และเตรียมการมาอย่างดี

3. ข้อคำถามเพิ่มเติมกับทีมงานผู้จัดหลังการประชุม (แต่ไม่สามารถระบุตัวได้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย..หุหุหุ)

Q1 : อัตราสูงขนาดนั้นจะเอาเงินมาจากไหน
A1 :
ก็ใช้เงินบำรุงฯนั่นแหละ ตอนนี้สถานการณ์การเงินของโรงพยาบาลค่อนข้างอยู่ได้เพราะมีการจัดสรรตรงถึงโรงพยาบาล และได้ มีการคำนวณวงเงินไว้เรียบร้อยแล้วว่า พวกที่ปีทำงานสูงๆมักจะย้ายไปอยู่เมืองใหญ่ๆแล้ว ดังนั้นต่อไป จะใช้เงินประมาณ สามถึงสี่ล้านบาท เมื่อเทียบกับเงินหมวดอื่นที่โรงพยาบาลจ่ายไปก็ไม่ได้สูงกว่า ที่ต้องจ่ายอัตราขนาดนั้นก็มีการคำนวณมาอย่างดีและเพื่อเป็นแรงจูงใจไม่ให้ไหลออกจากชนบท ซึ่งคิดว่าได้ผล และก็ยังต่ำกว่าอัตราที่เอกชนจ่ายให้อยู่ดี

Q 2 : ทำไมแพทย์/ทันตแพทย์ ในรพท.,รพศ.,สสจ. ถึงไม่ได้เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายด้วย แล้วเค้าไม่โวยหรือ
A 2 :
ตอนแรกก็คิดถึงกลุ่มนี้ด้วย แต่เกินขอบเขตการดูแลของเรา เคยไปชวน แพทยสภาและทันตแพทยสภา แล้ว คำตอบก็คือ “ ขอให้ตายก็ไม่ได้ ” สรุปว่า เค้าก็ไม่ร่วมด้วย เข้าใจเอาว่า ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะ กรรมการส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีส่วนได้เสียในข้อเสนอนี้ ซึ่งก็เป็นมาเสมอ อย่างตอนเสนออัตรา พตส. ก็เหมือนกัน ทันตแพทย์เองก็ตอบมาว่า “ เรามีแนวทางของเราอยู่แล้ว ”

(อยากให้กลับไปอ่านข้อเสนอการเลือกตัวแทนแพทยสภา ข้อที่ว่า “ ในช่วงนี้กำลังมีการเลือกตั้งกรรมการแพทยสภา ผมก็เลยอยากรบกวนขอให้พวกเราช่วยกันเลือก พี่วิชัย โชควิวัฒน หมายเลข 54 เป็นกรรมการแพทยสภา ในฐานะอดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท คนแรกๆ เพื่อไปแก้ไขภาพพจน์ และเปลี่ยนเจตคติของแพทยสภา เพื่อไม่ให้พาพวกเราเข้าป่า และละเมอเพ้อพกไปทุกๆวัน ว่าจะแก้นั่นแก้นี่ แต่แก้ไม่ได้ซักเรื่อง เพราะไม่เข้าใจในระบบงานจริง ว่าต้องแก้แบบไหน ดังนั้นหากเห็นด้วย ก็เลือกพี่ใหญ่แพทย์ชนบทเราสักคนไปถ่วงดุลหน่อยก็ดีครับ เรามีเสียงน้อย จึงขอให้เลือกแบบลูกโดด (ชื่อเดียวพอ) ด้วยครับ”)

ข้อเสนอของผู้รายงาน : - น่าจะทบทวนการเลือกทันตแพทยสภาบ้างด้วยเหตุผลเดียวกัน คนในกระทรวงสาธารณสุขน่าจะได้คิดแล้วว่า การเลือกเอาแต่คนดัง อาจารย์ที่รักและเคารพ อาจเข้าข่าย “รักแท้...แต่ดูแลไม่ได้ ” เราน่าจะเสนอ ส่งเข้าประกวด และช่วยกันเลือกตัวแทนจากกระทรวงฯ ที่เข้าใจระบบงาน และตระหนักถึงความสำคัญของงานทันต-สาธารณสุข มากพอที่จะดูแลเราได้ เป็นปากเป็นเสียงให้เราได้จริงๆจังๆ ไม่ใช่ถูกระบบกลืน ผมว่าจะเสนอตัวเองอยู่เนี่ย-ฮ่าๆ

ส่วนการโวย คงห้ามกันไม่ได้ แต่ถ้าผลที่ออกมาคือ เค้าขอย้ายไปอยู่ รพช. นั่นก็ตรงกับเจตนารมณ์ของเราที่จะกระจายอัตรากำลังลงสู่ชนบท ประชาชนก็จะได้ประโยชน์

Q 3 : แล้ววิชาชีพที่ไม่ได้หรือได้อัตราต่ำกว่าล่ะ
A 3 :
คงต้องทำความเข้าใจว่า เหตุผลในการเสนอคืออะไร ถ้ามองแล้วจะให้ทั้งหมด ก็ไม่สามารถใช้เหตุผลว่า “ขาดแคลน” อะไรที่ขาดแคลน ก็จัดสรรให้ ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้อะไรเลย ค่อยๆขยับไปจะขับเคลื่อนได้ง่ายกว่า ก็พยายามมองทุกวิชาชีพ แต่อาจต้องมองเป็นเม็ดเงินต่อวิชาชีพ ถ้าอัตรากำลังมาก ( ซึ่งอาจจะหมายถึงไม่ได้ขาดแคลนด้วย ตามหลักของ GIS ) เม็ดเงินที่เท่ากันแต่ตัวหารมากกว่าก็จะได้สัดส่วนต่อคนน้อยกว่า ไม่ใช่ไม่นึกถึงแต่มันก็มีที่มาที่ไปในการคิด

Q 4 : บางคนที่ไม่ทำงานแต่ได้อานิสงส์ไปด้วย
A 4 : อย่างน้อยเค้าก็ยังอยู่ชนบท แล้วถ้าได้เงินมากแต่ยังไม่ยอมทำงาน ประชาชนคงยอมรับไม่ได้ ระบบก็จะขับเขาออกไปเองโดยอัตโนมัติ

ปล.จากบรรณาธิการ : สรุปผลการเลือกตั้ง พบว่า นพ.วิชัย โชควิวัฒน ไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการแพทยสภา ในวาระ พ.ศ. 2552 -2554

0 ความคิดเห็น: