ยังจำได้ชัดมาก ถึงความรู้สึกเมื่อครั้งเรียน ป.โท ว่ากระอักกระอ่วนเพียงใดเมื่ออาจารย์ถามว่า ตั้งคำถามงานวิทยานิพนธ์ได้หรือยัง จากวันเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน ใช้เวลาอ่านหนังสือ และเข้าออกห้องสมุดไปหลายมหา’ลัย กว่าจะตั้งคำถามชัดๆ เพื่อทำงานต่อไปได้ นับแต่นั้นมา จึงตระหนักว่า การตั้งคำถาม หรือตั้งโจทย์ ที่ “ โดน ” หรือตรงจุดคานงัด เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมาก หากมุ่งหวังการทำงานยากๆ ให้สำเร็จ
ในฐานะพ่อบ้าน ... มีหลายภารกิจในบ้าน เป็นหน้าที่ต้องดูแล ถ้วยรองขาตู้ในครัว เป็นอีกงานหนึ่งที่ต้องจัดการอยู่บ่อยๆ วันหนึ่ง คำถามก็ผุดแวบขึ้นว่า หาอย่างอื่นที่กันมด+แมลงได้ ใส่แทนน้ำ+เกลือ(กันยุงไข่) ได้ไหม แบบว่า ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ไม่ต้องคอยเติมน้ำ เติมเกลืออยู่เรื่อยๆ ใช้สมองวิ่งปราดเดียว ..น้ำมันเครื่องใช้แล้ว!! น่าจะเป็นคำตอบที่...ถูกกกก...ต้อง จากนั้นมา ภารกิจนี้ ลดเวลาที่ต้องใช้ดูแลเหลือเพียงปีละ 2 ครั้ง
เคยถูกประตูรถเพื่อนหนีบนิ้วจนห้อเลือด ปื้ดแดงเข้มกระจายเต็มใต้เล็บ เจ็บปวด สุดแสนทรมานอยู่ 2 วันจนต้องไปถอดเล็บออก และเล็บนิ้วนั้น ก็มีอันผิดรูปร่างที่ควรเป็นนับแต่นั้นมา หลังจากนั้น มีเหตุให้ถูกของหนัก กระแทกจนห้อเลือด แดงเข้มเต็มใต้เล็บอีก 3 ครั้ง โชคดีที่ได้ตั้งคำถามจากปัญหานี้กับหมอนักคิดอีกท่านหนึ่ง ที่มหาสารคาม ครั้งที่ยังทำงานใน รพช. จึงใช้ aeroter เจาะรูเล็กๆ บนเล็บให้เลือดที่คั่งอยู่ ซึมออกมาได้ ครั้งหลังๆ ใช้ลวดเผาไฟให้ร้อน ค่อยๆ เจาะรูบนเล็บ ช่วยให้คลายปวดได้ราวปลิดทิ้ง เมื่อเลือดหยุดแล้ว จึงปิดรูด้วยซิลิโคน แล้วอีกเป็นเดือน เล็บเก่าก็ค่อยๆหลุดออก เล็บใหม่งอกออกมา หน้าตาใกล้เคียงเดิม (หากไม่ไปรังแกมันซ้ำอีก)(อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมนี้ ต้องอาศัยความชำนาญ หากไม่แน่ใจ ไม่ควรลอกเลียนแบบ!!)
ทุกวันนี้ ยังต้องตั้งคำถาม กับงานที่ทำทุกๆ วัน ....วันก่อนได้อ่านเรื่อง งานวิจัยการทาฟลูออไรด์วานิช ในทันตภูธร เล่มเก๋ไก๋ ฝีมือ บก.น้องอ๋อบอกว่า ช่วยลดอัตราฟันผุลงจาก ร้อยละ 80 เหลือ ร้อยละ 67 ลดได้ตั้ง 13 % !!! แต่... เอ ยังผุอีกตั้ง 60 % ก็เลยมีคำถามว่า มีวิธีอื่นๆ อีกไหมเนี่ย...ที่อาจลงทุนพอๆ กัน แล้วได้ผลดีกว่า ...??? ...ด้วยเหตุที่เป็นหมอฟัน จึงได้รับหน้าที่สำคัญยิ่งยวดในการแปรงฟันให้ลูก ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้น จนถึงปีนี้ปีที่ 8 อาจจะบวกด้วยลูกสาว ไม่ชอบอะไรที่หวานๆ จนบัดนี้ จึงไม่มีประสบการณ์ฟันผุ ... ... ...
กลับไปงานวิจัยที่ว่า มีคำถาม... ถ้าเรา ให้ อปท. ช่วยจ้างอาสาสมัครเยาวชนในชุมชน (ที่อาจไม่ใช่ อสม.) โดยใช้เงินกองทุนร่วม สป.สช.+ อปท. ในอัตราเดือนละพอๆ กับค่าซื้อ + ค่าแรง การทาฟลูออไรด์วานิชให้อาสาสมัคร ช่วยตระเวนแปรงฟันให้เด็กเล็กในชุมชน ที่หลายชุมชนมีแต่ตา+ยาย เลี้ยงอยู่ มันจะให้ผลที่ดีกว่าไหม เพราะเคยได้ยินว่า ที่ญี่ปุ่น ก็มีคล้ายๆ กัน แต่เป็นการให้บุคลากรกึ่งวิชาชีพทำความสะอาดฟันให้ผู้สูงอายุ ทุกสัปดาห์ ... มีใคร สนใจ ช่วยลอง เอาคำถามนี้ ไปลองวิจัยบ้างไหมครับ ... หรือเอาไปลองตั้งคำถามต่อ เราอาจได้คำตอบที่ช่วยให้งานหนักๆ ทั้งหลาย เบาลงได้ และได้ผลลัพธ์ดีกว่าเดิม
1 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับสำหรับบทความ
แสดงความคิดเห็น