วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

กรองใจท้ายเล่ม



วารสารทันตภูธร ฉบับนี้เป็น ฉบับที่ 2 (เมษายน – มิถุนายน 2551) ปีที่ 18 แล้ว แต่เป็นการเขียนคอลัมน์นี้เป็นฉบับแรกของข้าพเจ้า เนื่องจากบรรณาธิการ บอกว่าเป็นธรรมเนียมเพื่อเปิดโอกาสให้ประธานชมรมทันตสาธารณสุขภูธร ได้มาคุยกับสมาชิก 3 เดือนครั้ง ที่ขึ้นต้นมาว่า "ปีที่18" นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า ชมรมทันตสาธารณสุขภูธร ได้จัดทำวารสารทันตภูธร มานานถึงปีที่18 แล้ว

แต่ชมรมฯของเรามีมาก่อนวารสารนี้ หลายปี และดำเนินกิจกรรมมาจนถึงปัจจุบันนี้ได้ ก็เนื่องจากพวกเราทุกคนที่ให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอดีตประธานชมรมและทีมคณะทำงานที่ต้องทำงานหนักมาตลอด ทำให้ชมรมสามารถยืนหยัดอยู่ได้จนบัดนี้ จึงขอขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ และขอขอบคุณทีมคณะทำงานชุดใหม่ที่สนับสนุนข้าพเจ้า ให้เป็นประธานชมรมคนปัจจุบันและพร้อมทำงานสร้างสรรค์ เคียงบ่าเคียงไหล่กัน เพื่อนำพาชมรมและพวกเราชาวทันตสาธารณสุขภูธรให้ก้าวเดินต่อไป อย่างมั่นคง และมีความสุข

ซึ่งข้าพเจ้าเข้ามาเป็นประธานในยามที่บ้านเมืองมีภาวะวุ่นวายทั้งเรื่องการเมือง ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ข้าวแพง หมากหายาก (ข้าวยาก หมากแพง) น้ำมันขึ้นราคาเกือบทุกวัน ช่วงนี้ก็ยังเป็นช่วง มหกรรมฟุตบอลยูโร 2008 แน่นอน พวกเราโดยเฉพาะหนุ่มๆคงชอบเป็นส่วนใหญ่ ดูบอลแต่ต้องทำงานเต็มที่นะ ( รีบนอนแต่หัวค่ำ ) อย่างไรก็ตาม ดูบอลได้ แต่อย่าเล่นพนันบอลเด็ดขาด เพราะผิดกฎหมายและศีลธรรม
คงเคยได้ยินกันมาบ้างนะว่า “โจรปล้น 10 ครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้บ้าน แต่ไฟไหม้บ้านยังดีกว่าเสียพนัน เพราะไฟไหม้บ้านยังเหลือที่ดินอยู่ แต่เสียการพนันนั้นอาจเสียทั้งบ้านพร้อมที่ดินนั่นเอง” ดูๆคนไทยช่วงนี้ช่างน่าสงสาร แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อนบ้านและเพื่อนร่วมทวีปของเราน่าเศร้ากว่ามาก ซึ่งพวกเราคงสะเทือนใจไม่น้อยต่อภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในเอเชีย ทั้ง พายุไซโคลนนากิส ที่พม่า ซึ่งมาพร้อมๆ แผ่นดินไหวที่เสฉวน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้ผู้คนล้มตายรวมเป็นกว่าแสน บาดเจ็บ และขาดที่อยู่อาศัย อีกมากมาย

คิดอีกทีคนไทยเรายังดีกว่านะ เราเพียงอยู่อย่างลำบากขึ้น แต่เรายังมีชีวิต มีญาติพี่น้อง มีบ้านอยู่อาศัย เพียงแต่ขอให้เรารู้จัก ประหยัด ให้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่ง เป็นปรัชญาแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตน ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชกระแสรับสั่งในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงแก่ผู้เข้าเฝ้าถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาแต่พระพุทธศักราช 2517 "...คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่างเขาจะว่าเมืองไทยล้าสมัย ว่าเมืองไทยเชย ว่าเมืองไทยไม่มีสิ่งใหม่แต่เราอยู่ อย่างพอมีพอกิน และขอให้ทุกคนมีความปรารถนาที่จะให้เมืองไทยพออยู่พอกิน มีความสงบ ช่วยกันรักษาส่วนรวม ให้อยู่ที่พอสมควร ขอย้ำพอควร พออยู่พอกิน มีความสงบไม่ให้คนอื่นมาแย่งคุณสมบัตินี้ไปจากเราได้..."

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ได้รับการเชิดชูสูงสุดจากองค์การสหประชาชาติ (UN) โดย นายโคฟี อันนัน ในฐานะเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล The Human Development Lifetime Achievement Award แก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 และองค์การสหประชาชาติยังได้สนับสนุนให้ประเทศต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิก 166 ประเทศยึดเป็นแนวทางสู่การพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน อีกด้วย จึงขอเชิญชวนคนไทย โดยเฉพาะชาวทันตภูธร ดำเนินชีวิตโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวงของเรา อย่างภาคภูมิใจ เถิด


ทพญ.บานเย็น ศิริสกุลเวโรจน์

ประธานชมรมทันตภูธรสาธารณสุขภูธร




0 ความคิดเห็น: