เชื่อคำพ่อสอน : “....การทำงานให้สำเร็จ ขึ้นอยู่กับ ความสามารถสองอย่างเป็นสำคัญ คือ ความสามารถในการใช้วิชาความรู้ อย่างหนึ่ง ความสามารถในการประสานสัมพันธ์กับผู้อื่นอีกอย่างหนึ่ง ทั้งสองประการนี้ ต้องดำเนินควบคู่กันไป และจำเป็นต้องกระทำด้วยความสุจริตกาย สุจริตใจ ด้วยความคิด ความเห็นที่เป็นอิสระปราศจากอคติ และด้วยความถูกต้องตามเหตุตามผลด้วย จึงจะช่วยให้งานบรรลุจุดมุ่งหมายและประโยชน์ที่พึงประสงค์โดยครบถ้วนแท้จริง....”พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ข้าราชการพลเรือนเนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ปี พ.ศ. 2528
“ เขียนความดี ถวายในหลวง ”
ปี 2528 เป็นปีที่ฉันเริ่มเข้าเรียนคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ความใฝ่ฝันจะเป็นทันตแพทย์เพิ่งเกิดตอนเรียน ม.6 ที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัยนี้เอง แต่ความใฝ่ฝันจะเป็นข้าราชการมีมานานแล้วเพราะฉันเป็นลูกของข้าราชการและมีความภาคภูมิใจในความเป็นข้าราชการของคุณพ่อมาตั้งแต่เด็ก
ปี 2534 เรียนจบก็ใช้ทุนที่กองสาธารณสุข เทศบาลเมืองเชียงราย 3 ปี ย้ายมาอยู่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายนาน 7 ปีถึงยุค 30 บาทรักษาทุกโรค โรงพยาบาลพานขาดแคลนทันตแพทย์จึงย้ายกลับบ้านที่ อ.พาน จ.เชียงราย จนถึงบัดนี้ก็เข้าปีที่ 3 แล้ว จากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายทันตสาธารณสุข ได้มีผลงานด้านคุณภาพและเป็นประธานชมรมจริยธรรมของโรงพยาบาลจึงได้รับตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลด้วย
ความเป็นลูกคนกลางในพี่น้องจำนวน 5 คนทำให้เป็นผู้ประสานงานโดยธรรมชาติตั้งแต่เด็กๆ ใครว่าลูกคนกลางขาดความอบอุ่น แต่สำหรับฉันการเป็นคนกลางทำให้ฉันได้เข้าใจความเป็นผู้ใหญ่ของพี่ๆ เข้าใจความเป็นเด็กของน้องๆ ทำให้ฉันมีโอกาสอยู่ระหว่างเขาได้ทั้งสองฝ่ายโดยเราไม่ได้เป็นฝ่ายใดๆเลยแต่เราเชื่อมให้เป็นพวกเดียวกันได้
ฉันเชื่อมั่นในความดีของมนุษย์ทุกคน ทุกคนมีเมล็ดพันธุ์แห่งความดีสอดแทรกอยู่ในซอกหนึ่งของหัวใจและมีความดีแฝงอยู่ในทุกอณูของร่างกาย สำคัญที่สิ่งแวดล้อมของเมล็ดพันธุ์นั้นจะเปิดโอกาส จะหล่อเลี้ยง บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความดีนั้นให้เจริญเติบโต แย้มบานออกมาให้เห็นความงดงามของต้นไม้และดอกไม้แห่งความดีนั้นมากน้อยแค่ไหน นั่นคือ สิ่งที่ ท้าทายสำหรับพวกเราทุกคนที่ยังมีหน้าที่ของความเป็นข้าราชการของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะวิชาชีพทันตแพทย์ของพวกเรา
“......ความสามารถในการใช้วิชาความรู้ อย่างหนึ่ง ความสามารถในการประสานสัมพันธ์กับผู้อื่นอีกอย่างหนึ่ง.....” ส่วนหนึ่งของพระบรมราโชวาทฯ เป็นสัจธรรมที่ปฏิเสธได้ยาก หากเรามีแต่ความเก่ง เฉลียวฉลาด ปราดเปรื่องทุกเรื่อง แต่ไม่มีความสามารถในการประสานสัมพันธ์ ไม่มีความอดทน ไม่สนใจต่อบุคคลอื่นๆวิชาชีพของเราคงเก่ง อยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆภายในคลินิกหรือโรงพยาบาลของตนเองเท่านั้น ความสามารถของเรามีแค่นี้หรือ หากเราหยิบยื่นความห่วงใย ความสนใจต่อคนรอบข้าง เริ่มจากผู้ช่วยฯของเรา,ทันตาภิบาล ทีมของเรา มอบรอยยิ้ม ใส่ใจความรู้สึกของเขาอย่างแท้จริง ขยายไปจนถึงคนอยู่นอกห้องของเราฝ่ายต่างๆ ชุมชน องค์กรต่างๆที่เราเกี่ยวข้องด้วย การรับฟังความต้องการจริงๆของเขา แค่เพียงเราเปิดใจรับฟังเขาอย่างลึกซึ้ง เราจะรับรู้ถึงความตั้งใจทำความดีของเขา และเราก็จะยินดีต่อการกระทำของเขา ก็จะเกิดความสมัครสมานสามัคคีกันขึ้นมาได้ในองค์กรของเรา ไม่มีฝักมีฝ่าย พวกเราเป็นพวกเดียวกันทั้งนั้น เป็นคนไทยด้วยกันทุกคน
อยากให้การทำงานของเราบรรลุผลสำเร็จ ขณะเดียวกันคนทำงานก็เป็นสุขด้วย ขอส่งความสุข ด้วยการชวนกัน คิดดี พูดดี ทำดี มอบให้แก่กัน เพื่อเป็นการหล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์แห่งความดีที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกๆคนและบ่มเพาะคุณความดีให้เจริญงอกงามตลอดไป ขอถวายพระพรแด่ในหลวงของเรา
ทพญ.อรอนงค์ พูลสวัสดิ์ ทันตแพทย์ 8 หัวหน้าฝ่ายทันตสาธารณสุข
รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพาน อ.พาน จ.เชียงราย
onanongpo@hotmail.com มือถือ : 0816029349
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น