
เรื่องโดย iherebic / ภาพโดย พี่น้องชมรมทันตภูธร
ค่ายทันตแพทย์น้องใหม่ ชมรมทันตสาธารณสุขภูธร 1 - 3 สิงหาคม 2551
ณ . สวนแสนปาล์มรีสอร์ท จ.นครปฐม
“…..ว่าสำหรับฉันนั้นเธอคือทุกสิ่ง เป็นแรงบันดาลใจเป็นทุกๆอย่าง เธอเชื่อมให้ฉันเห็นภาพที่สวยงาม ของชีวิต แม้ว่าเรายังไม่ทันได้รู้จัก กันเลย” เสียงเพลงจาก ไอพอดที่ดังกระทบโสตประสาทของผม ขณะที่นั่งรถทัวร์กลับมาจังหวัดน่าน เพลงนี้เป็นเพลงที่เปิดในช่วงเวลาสุดท้ายของค่ายน้องใหม่ ภาพความทรงจำต่างๆ ในวันนั้นย้อนกลับมาให้ผมรำลึกถึงมันอีกครั้ง ......
ณ. วันเวลาสี่ทุ่มของคืนวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบบนรถทัวร์สายเดียวกันนี้แต่เป็นขาลงไปกรุงเทพ “ บิ๊ค....อ้ายมาถึงสวนแสนปาล์มแล้วเน้อ บ่มีไผซักคน เงียบขนาด แล้วจะฮื้อไปนอนตี้ไหน ” เสียงพี่ทอมจาก รพ.แม่ระมาด ผมแอบคิดในใจว่า “ ก็ไม่รู้อ่ะ เพราะไม่เคยไปเหมือนกัน ยังไม่รู้เลยว่าสวนแสนปาล์มมันอยู่ที่ไหน ” แต่ก็เนียน ๆ ไป ว่าเดี๋ยวผมจะประสานงานให้ ว่าแล้วก็โทรหาหมอใหม่ พูลพฤกษ์ เจ้าของโปรเจคค่ายน้องใหม่นี้ ซึ่งลงดอยมาจากเชียงใหม่ไปรออยู่ก่อนแล้ว เสียงเพลงดังลอดจากโทรศัพท์ ผมคิดแล้ว ว่าต้องไปอยู่สถานบันเทิงไหนสักแห่งในนครปฐม ไม่ได้เรื่องแน่ๆ เลยโทรหา พี่พจนา พี่สาวที่แสนดีจาก รพ. เวียงแก่น เชียงราย ซึ่งปักหลักอยู่ที่สวนแสนปาล์ม และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น..........แบตโทรศัพท์พี่พจหมด
เอาล่ะสิ พี่ทอมของผม เลยโทรหาพี่ทอมอีกครั้ง แกบอกว่าเจอพี่พจแล้ว ผมโล่งใจทีเดียวเชียว จากนั้นผมก็ไม่ได้หลับอีกเลยจนเช้าที่หมอชิต เรานัดกันที่ TOPS supermarket หน้า ม.เกษตร เพื่อเดินทางไปสวนแสนปาล์ม กำแพงแสน สถานที่ที่เราจะใช้ชีวิตด้วยกันเป็นเวลา 3 วัน ปรากฏว่า ไปถึงเห็นพี่ตง ทพ.วิวัฒน์ ฉัตรวงค์วาน หมอ maxillo ที่เดินทางมาจากโคราชตอนเช้ามืด ยืนรออยู่ก่อน บอกว่ารถออกไป 2 คันแล้ว ว่าแต่สมาชิกจากน่าน 3 คน ถึงมาช้าแต่ก็ไม่สายถึงยังไงก็ยังมีคนมาสายกว่าผมพอสมควร ....first เป็นชื่อน้องคนแรกที่ผมจำได้จากเหตุการณ์นี้
รถคันสุดท้ายมาถึงสวนแสนปาล์มสาย ๆ แสนปาล์มจริงๆครับ ต้นปาล์มเยอะมาก จะถึงแสนหรือไม่ก็ไม่รู้ คงไม่มีใครไปนั่งนับมันหรอก กิจกรรมเริ่มด้วยการเปิดงานโดย ทพญ.บานเย็น ประธานชมรมคนปัจจุบันจาก สสจ.สงขลา และมีบรรยายพิเศษเรื่อง ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและความคาดหวังต่อทันตแพทย์โดย นพ.ประทีป ธนะกิจเจริญ รองเลขาธิการ สปสช. ผู้ที่สนับสนุนงบประมาณมาจัดงานนี้ บรรยากาศสบายๆ นั่งฟังไปแอบหลับไป พอจำได้ประมาณ Modernized Health Care กับ Humanized Health Care หลังๆ มานี่คำว่า Humanized Health Care มาแรงจริง ๆ
ตอนบ่ายเราเริ่มกันด้วยการทำ Bodyscan เอ.....มันคืออะไร ?? คงมีคนสงสัย มันคือ การสร้างสมาธิโดยการนอน แล้วก็หลับไป หรืออีกนัยหนึ่งคือ การนอนหลับหลังอาหารกลางวัน
กิจกรรมต่อมาที่เข้าใจว่า น้อง ๆ คงคิดว่า ให้ฉันมาทำอะไรเนี่ยะ !!!!! นั่นคือการทำสุนทรียสนทนา หรือ dialogue ในกิจกรรมชื่อ สายธารชีวิต โดยมี อ.ทพ. พิชิต หมอ maxillo อีกคนจาก คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็น modurator (ผมแอบแปลกใจอยู่เล็กน้อย มีแต่หมอ maxillo) โดยให้เล่าเรื่องของตัวเองตั้งแต่เกิด เล่าอะไรก็ได้ ให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มฟัง จากนั้นก็มีกิจกรรม ‘กงล้อสี่ทิศ’ ที่จะมีสัตว์สี่ชนิด คือ เหยี่ยว กระทิง หนู หมี เป็นตัวแทนของความเป็นตัวตนของแต่ละคน จากนั้นก็แบ่งกลุ่มตามที่เราคิดว่าเป็นสัตว์ชนิดนั้น นั่งเป็นวงกลมเล่าเรื่องตัวเองให้สมาชิกในกลุ่มฟัง ว่าทำไมตัวเองคิดว่าเป็นหนู เป็นหมี เป็นเหยี่ยว เป็นกระทิง สำหรับผมยังไม่แน่ใจว่าเป็นเหยี่ยว หรือ เป็นหมี ยังสงสัยตัวเองอยู่ กิจกรรมนี้ทำให้เรารู้จักวิเคราะห์ตนเอง และ เข้าใจคนอื่น ๆ ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร จะเข้าถึงเขาได้อย่างไร และ จะทำงานร่วมกันได้อย่างไร ประมาณนี้
ตอนเย็นๆ มีพี่ๆชมรมทันตภูธรรุ่นแรก เป็นเล่าเรื่องชมรมให้น้องๆ แรกรุ่นฟัง คือ ทพญ. พรรณี ผานิดานันท์ มาไกลมากจาก สสจ.นครราชสีมา และ พี่ปู่ ทพ.พิศักดิ์ องค์ศิริมงคล จาก สสจ. ปทุมธานี ฟังไปฟังมาเหมือนพี่เขารำลึกความหลังครั้งยังเยาว์วัยที่แสนจะยาวนานให้หลานๆฟัง (แฮะๆ แซวเล่นนะครับ ) ตั้งแต่การเริ่มก่อตั้งชมรมทันตภูธร ความเป็นมาเป็นไป ย้อนหลังไปหลายปีมาก ผมแอบเห็นพี่พรรณี เหลือบมองไปหาพี่ปู่ เหมือนขอตัวช่วยเสมอ ใช้เวลาเล่าพอสมควร พี่พรรณีก็มีความจำเป็นต้องกลับโคราช (ไกลนะนั่น) ก็ถึงเวลาทีร่ำลากัน แต่ก็เต็มไปด้วยความอิ่มอกอิ่มใจของน้อง ๆ ที่มีพี่ ๆ สละเวลามาเยี่ยมเยียน แม้เพียงเวลาอันน้อยนิด ก็สามารถสร้างความรู้สึกที่ดีขึ้นมาได้ หลังจากทานอาหารเย็นมีพี่ๆ รุ่นแรก ๆ คือ ทพ.ศิริชัย ชูประวัติ ,ทพ. สมนึก ชาญด้วยกิจทพ.ปิยะพงศ์ วัฒนวีร์ , ทพ.พิศักดิ์ องค์ศิริมงคล
มาผูกข้อมือรับขวัญน้องใหม่ พูดคุยเล็กน้อย กับน้องๆ จากนั้นกิจกรรมรอบดึกเป็นการเล่าเรื่องของพี่ๆวิทยากร คือ พี่เกียรติ ทพ. สมเกียรติ กาญจนสินิทธ์ จาก รพ. ท่าวังผา จ.น่าน และ พี่ทอม ทพ. กิตติคุณ บัวบาน จาก รพ. แม่ระมาด จ. ตาก โดยมี อ.ทพ. วิชัย วิวัฒน์คุนูปการ จาก ภาควิชาทันตกรรมชุมชนเชียงใหม่ มาเป็นผู้ดำเนินรายการ เนื้อหาหลักๆ จะเป็นการดำเนินชีวิตและการทำงานในโรงพยาบาลชุมชน โดยใช้การเล่าเรื่องและถ่ายทอดประสบการณ์จริงเป็นเครื่องมือสื่อสาร คนในวงเล่าก็มีส่วนร่วมในการพูดคุย แต่หลัง ๆ จะเหมือนเรื่องเปลี่ยนไปเป็นเล่าเรื่องเมืองน่านยังไงก็ไม่รู้ เพราะคนที่พูดแต่ละคนอยู่เมืองน่าน อดีตเคยอยู่น่าน แม้กระทั่งไปเที่ยวน่านมา จนถึงสี่ทุ่ม จากนั้นก็สลายตัว ส่วนกลุ่มพี่ๆ staff ก็ไปนั่งคุยกัน เรื่องกิจกรรมวันต่อจนถึงเที่ยงคืน และ แยกย้ายไปนอน good night ...ZZZZZZZ
เช้าวันใหม่มาเยือนแล้ว หลังจากเติมพลังงานกันแล้ว ก็เริ่มกิจกรรมต่อไปก็มาต่อในกงล้อสี่ทิศจากเมื่อวาน หลังจากนั้นมีกิจกรรมโยนไข่ให้ไม่แตก ให้อุปกรณ์มา คือ ไข่ กระดาษหนังสือพิมพ์ ไม้เสียบลูกชิ้น เอามาทำอะไรก็ได้กับไข่ ให้โยนแล้วไม่แตก ทุกคนต้องช่วยกันทำ ก็จะชี้ให้เห็นความเป็นตัวตนของแต่ละคนตามสัตว์สี่ทิศ แต่ก็ไม่มีกลุ่มไหนทำไข่แตก ผมว่านะน่าจะโยนจากชั้นสองลงไปชั้นหนึ่งเลย น่าลุ้นกว่า
.....เข้ามาตอนบ่ายหลังทานอาหารกลางวัน ก็ bodyscan เหมือนเดิม หลายคนหลับเอาเป็นเอาตาย ไม่รู้ไปอดหลับอดนอนที่ไหนมา กิจกรรมตอนบ่ายผู้ดำเนินรายการของกิจกรรมนี้คือ พี่ฝน วรางคณา อินทรโลหิต จาก สสจ. หนองบัวลำภู พี่ฝนบอกว่าไม่ได้ตั้งชื่อ แต่กิจกรรมจะเป็นลักษณะ วาดรูปต่อเนื่องกันไป งงไหม.... ก็คือ ให้แต่ละคนวาดรูปในกระดาษของตนเอง แล้วพอหมดเวลาก็ให้เพื่อนๆ ในกลุ่มวาดรูปของเราต่อจนครบทุกคนในกลุ่ม แล้วมาสรุปกิจกรรม หลาย ๆ คนบอกว่า หลังจากกระดาษที่ตนเองวาดรูปไปตกอยู่ในมือของเพื่อนแล้ว หลายคนเป็นห่วงว่ารูปของฉันจะเป็นอย่างไรน๊า บางคนต้องไปแอบดู แอบพะวง ห่วงรูปตัวเองที่วาดสวยๆ จะเจ๊งเพราะคนต่อไป แต่ละคนไอเดียบรรเจิดมาก มีหลายคนที่วาดรูปตั้งต้นด้วย ภูเขาสองลูก มีดวงอาทิตย์มีลำธาร ย้อนไปนึกถึงสมัยเรียนอนุบาลประมาณนั้น มีคนนึงบอกว่า หนูวาดรูปทะเล แต่มีคนมาวาดควายลงเล่นน้ำทะเล เออ.....ขำดี หลายคนประทับใจถึงกับบอกว่าจะเอาไปเก็บไว้เชียวนะ สรุปโดยรวมกิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้รู้จักการเชื่อใจกัน ในทำงานร่วมกัน
บ่ายนี้หมอใหม่พูลพฤกษ์เหยี่ยวของพี่ๆ กวักมือเรียกผม แล้วพูดว่า พี่บิ๊คผมคิดอะไรได้แล้ว ผมละกลัวคำคำนี้จากใหม่จริงๆ และแล้วก็เป็นจริงดังคิด โปรเจค emergency มาอีกแล้ว สมกับความเป็นเหยี่ยวของหมอใหม่มากๆ “ notebook พี่มี photoshop ไหม ” ใหม่ถามผม “ มีสิ ” หมีอย่างผมก็ต้องเตรียมมาไว้ก่อน ใช้หรือไม่ใช้ค่อยว่ากัน แต่มันได้ใช้จริง ๆ คิดในใจได้ใช้ทั้งคืนแน่ๆ กิจกรรมช่วงบ่ายเสร็จก็ไปทัศนศึกษา พูดให้ดูดีไว้ก่อน เราพาน้องๆ ไปเที่ยวที่ พระราชวังสนามจันทร์ ตอนแรกก็นึกไม่ออกว่าเป็นยังไงหรอก เพราะนครปฐมทั้งชีวิตผมนี่ ครั้งนี้ผมไปครั้งที่สองเอง ถ้านึกไม่ออก นึกถึงอนุสาวรีย์ย่าเหลสิ นั่นแหละ
พระราชวังสนามจันทร์ เหลือเวลาน้อยนิดก็ไปต่อที่นี่เลย มานครปฐมไม่มาก็เหมือนไม่ถึง คือ คลินิกไอ้น้องเท้ง ไม่ช่าย!!!! องค์พระ หรือ พระปฐมเจดีย์ ต่างหาก รถตู้พาเราเลี้ยวไปเลี้ยวมาในตัวเมือง สังเกตเห็นอย่างหนึ่งคือนครปฐมนี่ร้านอาหารเยอะมาก จนผมแอบคิดว่าขอร้านอาหารบนถนนซักสายหนึ่ง ยกไปไว้ที่อำเภอผมนะ จะมีความสุขไม่น้อย รถตู้พาเรามาจนเห็นเจดีย์ขนาดมหึมาอยู่ตรงหน้า โอ้พระเจ้าจอร์จ.องค์พระเป็นเจดีย์ที่ใหญ่มากจริงๆ พวกเราได้ไปไหว้สักการะพระร่วงโรจนฤทธิ์ ท่ามกลางผู้คนมากมาย อบอวนด้วยกลิ่นธูปเทียน และ ศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ถึงเวลาอันควรก็เดินทางกลับสวนแสนปาล์ม พอมาถึงก็พบว่า มีพี่อีกคนหนึ่งมารอพวกเราอยู่ พี่แพร จิตตินันท์ จาก รพ. บางใหญ่ สละเวลาเพื่อมาร่วมกิจกรรมกับน้อง ๆ
กิจกรรมหลังอาหารเย็นสำหรับผมเป็นไฮไลต์ทีเดียว เป็นการบรรยายของบุคคลที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของประเทศ คือ อ.โสภณ สุภาพงษ์ กับตำแหน่งผู้บริหารองค์กรที่มีชื่อเสียงมากมาย เป็นนายกสภามหาวิทยาลัย และอาจารย์พิเศษของสถาบันอุดมศึกษาหลายสถาบัน ซึ่ง อ.โสภณ เองบอกว่าเป็นสิ่งที่ถูกสมมุติขึ้น มันไม่ใช่ความจริง เอาแล้วไหมล่ะ !!!! ไม่ทราบว่าอาจารย์จะรู้สึกอย่างไรที่มา เลคเชอร์ให้ทันตแพทย์เด็กๆ ไม่กี่สิบคนฟัง หมอใหม่พูลพฤกษ์นี่สุดยอดจริงๆ สามารถเชิญ อ.โสภณ มาบรรยายได้ต้องยกเครดิตให้หมอใหม่เลยงานนี้
บรรยากาศของยามค่ำในวันนี้ทุกคนต่างมุ่งมั่นตั้งใจฟังกันมาก ด้วยศิลปะการพูด น้ำเสียง แววตา อารมณ์ของวิทยากรเอง รวมทั้งเรื่องราวต่างๆ ที่นำมาบรรยาย ช่างน่าสนใจเสียนี่กระไร แถมแอบกัดกลุ่มการเมืองทุนนิยมไปเป็นระยะๆ ทำให้ผมนึกถึงพี่อ๋อบรรณาธิการ ทันตภูธร มาตะหงิดๆ ถ้าเจ๊ได้ยินคงถูกใจ ผมเพิ่งมารู้เรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จริง ๆ แล้วเรื่องของเรื่องมาจากที่ อ.โสภณ เล่าว่าเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ด้วยความเป็น very very vip person และรวยมากทำให้อาจารย์หายป่วยได้ แล้วนำมาเปรียบเทียบกับน้องทราย เด็กที่อยู่ในมูลนิธิเด็กของอาจารย์ซึ่งไม่มีเงินรักษา ต่อมาได้เสียชีวิต ซึ่งช่วงที่อาจารย์ admit ก็แอบออกมาเยี่ยมน้องทราย พอทราบว่าน้องทรายเสียชีวิต อาจารย์ก็ตั้งใจนำเรื่องความเป็นธรรมด้านสุขภาพ มาในการทำโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามาใช้ในประเทศไทย
อาจารย์พูดตั้งแต่ หนึ่งทุ่มถึงห้าทุ่มกว่า ๆ อากาศที่เย็นในห้องไม่สามารถขัดขวางพลังความตั้งใจของอาจารย์ได้เลย จะเห็นได้ที่มีเหงื่อชุ่มเสื้อของอาจารย์ ผมว่าทุกคนเห็นนะ ก่อนอาจารย์จะกลับ ทางชมรมทันตภูธร มอบของที่ระลึกให้ พร้อมทั้งเงินบริจาคช่วยภาคใต้ และ ค่าวิทยากร แต่ค่าวิทยากรอาจารย์ไม่รับ และ บอกว่า ให้ชมรมเอาไว้ใช้ทำกิจกรรม อาจารย์ตั้งใจมาเพราะความตั้งใจของคนที่เชิญอาจารย์ พวกเราหลายคนเดินไปส่งอาจารย์ที่รถ และ เฝ้ามองจนกระทั่งรถลับหายไปจากสายตาท่ามกลางความมืด ผมยังคิดต่อไปอีกว่าอาจารย์ไม่เหนื่อยหรือ เพราะพรุ่งนี้เช้าตรู่จะต้องเดินทางไปสามจังหวัดภาคใต้อีก
หลังจากนั้นพี่ ๆ ก็ไปนั่งสรุปงานกัน และ เตรียมงานวันต่อไป สำหรับผมความเป็นเหยี่ยวเริ่มเข้าสิง ผมลงมือเปิด notebook เปิดโปรแกรม photoshop ลงมือทำโปสการ์ดให้น้อง เวลาจำกัดมากเพราะพรุ่งนี้เช้าต้องเอาไปอัด และให้น้องก่อนกลับ ผมพึ่งเคยทำ photoshop โดยไม่ใช้เมาท์ ใช้ touchpad ของ notebook แทน ยากมากขอบอก กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปตีสาม โดยมีน้องอ๋อง จากเทศบาลนนทบุรี มือถ่ายภาพหลักของงาน กับ น้องเอ๋ princess จาก รพ.ภาชี มาช่วยจนเสร็จ จากนั้นทุกคนก็สลายตัวไปนอน
เช้าวันใหม่ วันนี้แล้วสินะ ทุกคนก็จะต้องแยกย้ายกันกลับไปทำงาน ก่อนกลับเราได้เข้ากิจกรรมกลุ่ม สิ่งที่น้องอยากรู้ อยากถาม อยากพูด แบ่งกลุ่มพี่ๆ นั่งคุยกับน้อง สุดท้ายให้น้องพูดถึงความรู้สึกที่ได้มางานนี้ซึ่งแต่ละคนก็พูดอย่างน่าประทับใจ ก่อนจะแยกย้ายก็มานั่งดูรูปที่ถ่ายตั้งแต่วันแรก จากฝีมือน้องอ๋อง กับ อ.พี่ชิต พร้อมกับเรื่องจริงที่ว่า “..... ว่าสำหรับฉันนั้นเธอคือทุกสิ่ง เป็นแรงบันดาลใจเป็นทุกๆอย่าง เธอเชื่อมให้ฉันเห็นภาพที่สวยงาม ของชีวิต แม้ว่าเรายังไม่ทันได้รู้จัก กันเลย …..”
ผมมองเห็นภาพตัวเองที่สะท้อนมาจากกระจกของรถทัวร์ที่อาบไปด้วยหยดน้ำฝน ผ่านดวงตาที่แสนเหนื่อยล้า ภาพต่าง ๆ เหตุการณ์ที่เล่ามา ล่องลอยออกมาทักทาย ผ่านความทรงจำที่แสนจะอบอุ่น ทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้ ขอบคุณสำหรับความประทับใจที่ทุกคนร่วมกันสร้าง ขอบคุณสำหรับความสุขที่เก็บได้จากทุกมุมของรอยยิ้ม ขอบคุณ staff ชมรมทันตภูธร ทุกคนทำงานได้เยี่ยมมากและยังมีอีกหลายคนที่ไม่ได้เอ่ยชื่อในที่นี้ ขอบคุณสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ พี่สิริกร ที่เชื่อมั่นและมอบโอกาสให้พวกเราได้มาทำงานร่วมกัน
ขอบคุณบริษัทยูนิตี้เด็นตัล ที่สนับสนุนกิจกรรมครั้งนี้ และสุดท้ายขอบคุณน้องๆทันตแพทย์ใหม่ ซึ่งเปรียบเป็นหยดน้ำที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ต้นกล้าเล็กๆ ที่ชื่อ “ ทันตภูธร ”
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น