วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สารพัน....ทันตภูธร : EAP ??:EXPERIMENTIAL ACTIVITIES PLANNER


โดยหมอหนุ่ย

สวัสดีค่ะ...มีเรื่องเล่าจากน่านมาฝาก น่านเค้ามีอบรม EAP ......งงหล่ะสิ อะไรหว่า เกี่ยวอะไรกับเราด้วย บอกตามตรงค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร (แป่ว!) มี หมอชุมแสง วิภาพเสถียรกุล ทันตแพทย์จากโรงพยาบาลเชียงกลางเป็นหัวเรือใหญ่ ของบประมาณมามากมาย เพื่อมาทำโครงการนี้ เอาเลยค่ะ ประชุมอะไร เพื่อใคร ไม่รู้หล่ะ รู้แต่ว่าได้หยุดทำฟัน หนีไปพักรีสอร์ทบนดอยที่อำเภอปัว ตั้ง 4 วัน 3 คืนแน่ะ 2 วันแรก เป็นการอบรมสำหรับศูนย์เด็กเล็ก 2 วันหลัง สำหรับโรงเรียนระดับประถมศึกษา แต่ไม่ได้เชิญมาเฉพาะผู้ดูแลเด็กหรือครูอนามัยน่ะ อย่างนั้นมันจิ๊บ ๆ หมอแสงไม่ ใหญ่ ๆ หมอแสงทำ เขาเชิญระดับผู้บริหาร นายกอบต. ปลัดอบต. ผู้อำนวยการ ครูใหญ่ เชิญมาหมด แรกๆ เขาก็งงๆกัน นั่นแหละ เชิญมาทำไมเนี่ย ฉันระดับผู้บริหารนะ งานแบบนี้เป็นผู้ปฏิบัติการเขาทำกันหรอก ต้องติดตามต่อไปค่ะว่าผู้บริหารจะได้อะไรจากงานนี้ วิทยากรนี่ก็ไม่ใช่อุจจาระๆนะคะ (จะเล่นขี้ ๆ ก็รู้สึกไม่สุภาพค่ะ ขออภัย) ระดับประเทศ จากสถาบันศิลป วัฒนธรรมเพื่อการพัฒนา (มายา) กว่าคิวอาจารย์จะว่างได้ นี่ต้องจองคิวล่วงหน้าเป็นปีนะคะ ไม่ใช่เล่น ๆ


ตอนแรกก็เริ่มเป็นกิจกรรมกลุ่มเหมือนเด็ก ๆ อนุบาล อือ.... ดูมันแรงไปเน๊อะ เอาเป็นว่าเหมือนน้อง Freshy ปี 1 ละกัน เด็กดี สดใส ร่าเริงแต่ขอบอกว่าสนุกมาก ๆ ถ้าเป็นระดับผู้บริหารก็อาจจะเกร็งเล็กน้อย เพราะปกติจะสั่งคนอื่น แต่ไหงงานนี้ โดนคนอื่นสั่งแบบบ้า ๆบอ ๆ เช่น จับกลุ่ม 3 คน เพื่อทำตัวเป็นเครื่องบิน จับกลุ่ม 10 ทำเป็นดอกไม้หุบ ดอกไม้บาน จับกลุ่ม 5 คนเป็นห้องน้ำ หรือให้ทำยังไงก็ได้ให้กลุ่มตัวเองสูงสุด แต่สำหรับส่วนตัว ชอบถึงชอบมากที่สุดค่ะ อยากให้มีแบบนี้ทั้งวันเลย (อิอิ ตกลงมันจะมาเล่นหรือจะมาประชุมว่ะเนี่ย ) สุดท้ายของการเล่นแบบนี้ ก็ทำให้เราได้กลุ่มมาประมาณ 12 คน เพื่อทำกิจกรรมกลุ่มร่วมกัน แต่เป็นอะไรที่สนุกเพราะอาจารย์จะมีวิธีการสอนให้เราใช้สิ่งจากวัสดุที่เรามีอยู่ ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณอะไรมาก เช่น หุ่นเชิดจากหนังสือพิมพ์, หุ่นเชิดปากที่ทำให้ปากขยับได้จากกล่องนมเปล่า, หุ่นเชิดบน, หุ่นเชิดล่าง, ภาพเจาะหน้า ซึ่งแม้คนที่ไม่ค่อยมีศิลปะก็สามารถทำออกมาให้เป็นที่สนใจได้ แล้วก็ผลัดกันออก มานำเสนอเรื่องละประมาณ 2 นาที งานนี้ก็ทำให้ผู้ช่วยทันตแพทย์ ทันตาภิบาลแจ้งเกิดกันหลายคน (เอ๊ะหรือว่าตัดสินใจเรียนพลาด จริง ๆ อาชีพครูน่าจะเหมาะสมกับเรามากกว่า)


แล้ววันที่ 2 ก็จะไปปฏิบัติจริงกับเด็ก ๆ ผลปรากฏว่าเด็ก ๆ ชอบกันมาก แทบอยากจะตามพวกเรากลับบ้านกัน “ ไม่เคยสนุกอย่างนี้มาก่อนเลยค่ะ” “พรุ่งนี้มาอีกนะคะ” เราไม่ได้เล่านิทานสนุก ๆ เฉย ๆ นะคะ ถ้าแบบนั้นก็ไม่รู้จะทำไปทำไมเพราะใคร ๆ ก็ทำได้ แต่เราให้เด็กคิดตามเราไปด้วย และออกมาในเชิงสร้างสรรค์ว่าเด็กจะทำอย่างไรต่อไป เช่น ถ้าเรื่องประโยชน์ของอาหารพื้นบ้าน (จริง ๆ หัวข้อนี้ยากเหมือนกัน กลุ่มที่ได้ไปบ่นอุบเลยว่าจะทำยังไง แต่สุดท้ายก็เห็นออกมาได้ผลดีกัน) เราก็จะเล่านิทานสั้น ๆ ว่ากินอาหารสำเร็จรูปไม่ดียังไง ถ้ากินอาหารพื้นบ้านจะดียังไง เสร็จแล้วก็ให้เด็ก ๆ วาดรูปออกมา ก่อนเล่านิทาน มีการเล่าเรื่องบทนำ มีกิจกรรมให้เด็กคุ้นเคยกับเราก่อน ไม่ใช่ประเภทสวัสดีค่ะ



วันนี้เราจะเรียนเรื่องประโยชน์ของอาหารพื้นบ้าน แบบนี้เด็ก ๆ จะโห่ร้องค่ะว่าเชยมาก ๆแล้วให้เด็กๆจับกลุ่มประมาณ 4 - 5 คน แล้วเขียนเป็นสมุดภาพ แล้วออกมาเล่าหน้าชั้นว่า พวกเขาแต่งนิทานว่าอย่างไร คิดอย่างไร ทั้งหมดทั้งสิ้น ประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ประโยชน์นี่ได้หลายอย่างเลย เด็ก ๆ ได้ความรู้ ได้แสดงออกทั้งความคิด ความสร้างสรรค์ จินตนาการ เวลาแต่งนิทานก็ฝึกทักษะการใช้ภาษา การรู้จักการทำงานร่วมกับบุคคลอื่น ๆ แล้วก็เหมือนเล่นนะ แต่จริง ๆ เรียนและสอนไปแล้ว แล้วเราก็กลับมาอภิปรายกันว่าเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่าดีและสนุกกันทั้งนั้น ผู้บริหารเขาก็จับกลุ่มคุยกัน ของอำเภอเชียงกลางนี่เขา work มาก (หมอแสงเป็นเจ้าของพื้นที่ จากหน้าที่บาน ๆ อยู่แล้ว ยิ่งบานเข้าไปใหญ่)


อีกอาทิตย์ถัดมา ประชุมด่วน เอาแผนการเรียนการสอนแบบ EAP เข้าไปในโรงเรียนทันที (ตอนนี้ก็คงเห็นแล้วว่าเอาผู้บริหารมาทำอะไร) ส่วนเราก็กลับมาก้มหน้าก้มตาทำงานที่โรงพยาบาลและงมอยู่กับฟันต่อ ไว้โอกาสหน้าเจอกันใหม่นะ


0 ความคิดเห็น: