วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ทักทาย...บรรณาธิการ วารสารทันตภูธรเล่ม 4 ปี 51



"....ในบ้านเมืองมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้...." พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2512 ....


ราว 10 ปีก่อน ดิฉันได้ยินได้ฟังพระบรมราโชวาทประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกๆเช้า ก่อนฟังเพลงชาติไทยเวลา 8 นาฬิกา จากเสียงตามสายของเทศบาลเมืองจังหวัดเล็กๆแห่งหนึ่ง ตอนนั้นดิฉันไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก แต่เมื่อวันก่อนดิฉันได้อ่าน พระบรมโชวาทนี้อีกครั้งจากหนังสือพิมพ์ คราวนี้ดิฉันกลับสนใจเป็นพิเศษทุกถ้อยคำในพระบรมโชวาทที่ในหลวงของเรา ได้พระราชทานให้กับปวงชนชาวไทยไว้ตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เกือบ 40 ปีที่ผ่านล่วงเลยมาจนถึงวันนี้


ยุคสมัยที่ความดีความไม่ดี คนดีคนไม่ดี แยกออกจากกันยากเต็มทีค่ะ ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันทัศนคติเชิงจริยธรรมของสังคมไทยน่าเป็นห่วงมากขึ้น ประเมินได้จากผลวิจัยของศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม สำรวจโดยเอแบคโพลล์เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 53.2 มีความเอนเอียงที่จะยอมรับได้หากรัฐบาลชุดใดโกงกินแล้วทำให้ตนเองอยู่ดีมีสุข , กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 50.7 มีความเอนเอียงที่อาจจะไม่ซื่อสัตย์ต่ออาชีพของตนเองบ้างหากมีความจำเป็น , ร้อยละ 98.7 มีความภูมิใจในเกียรติและศักดิ์ศรีที่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินไทย และร้อยละ 98.5 เห็นว่าประเทศไทยไม่จำเป็นต้องเป็นประเทศที่ร่ำรวยมากหากอยู่ด้วยกันได้อย่างสันติสุข ผลงานวิจัยสะท้อนสังคมไทยว่ามีแนวโน้มเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติ แม้ว่าจะภาคภูมิใจในความเป็นไทยและตระหนักดีว่าความร่ำรวยไม่ได้ทำให้ประเทศไทยมีความสงบสุขเสมอไปก็ตาม

เมื่อสถานภาพคุณธรรมของประชาชนในสังคมไทยเป็นเช่นนี้ และศีลธรรมของนักการเมืองไทยก็ยากที่จะฝากความหวัง การส่งเสริมคนดีให้มาปกครองบ้านเมือง ตามความเป็นจริงในปัจจุบันสมัยนั้น จึงอาจเป็นไปในแนวทาง ส่งเสริมคนดีคนใดด้วยเงื่อนไขใด และสถานการณ์ใดเสียมากกว่า มีคำกล่าวที่ว่า " สังคมเป็นอย่างไร ก็ได้นักการเมืองเป็นเช่นนั้น "

75 ปี ในระบอบประชาธิปไตยถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ประชาชนชาวไทยจะมีทัศนคติเชิงสร้างสรรค์ทางการเมือง ติดตามรับฟังนโยบายอย่างจริงจัง รวมทั้งแสดงความคิดเห็นทางการเมืองโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง สร้างค่านิยมในการแสดงออกทางการเมือง ต่อต้านอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม มีความสนใจใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อมต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะสามารถกระตุ้นระดับศีลธรรมของนักการเมืองให้สูงขึ้นจากการตรวจสอบอย่างเข้มแข็ง รู้จักใช้สิทธิระลึกถึงหน้าที่ความเป็นพลเมืองผู้เสียภาษีเจ้าของประเทศของประชาชนชาวไทยทุกคน ถือเป็นพื้นฐานในการพัฒนาประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน และได้คนดีมาปกครองบ้านเมือง สมดั่งพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างแท้จริงค่ะ


เนื่องในวโรกาสมหามงคลซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา การทำความดีเพื่อถวายพระพรแด่พระองค์ท่านของดิฉันคือ ตั้งใจทำงานวารสารทันตภูธร เพื่อนำเสนอแนวคิดและกิจกรรมของทันตบุคลากรที่ดำเนินงานทันตสาธารณสุขทั่วประเทศ ด้วยความหวังว่าจะช่วยเพิ่มพูนแรงบันดาลใจ ความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมความสุขในการทำงานในบริบทแวดล้อมของผู้อ่านทุกท่านค่ะ โดยในปี 2551 วารสารทันตภูธร วางแผนการพิมพ์เป็นทุก 2 เดือน ซึ่งจะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการสร้างเครือข่ายทันตบุคลากรและนำเสนอข่าวสารให้รวดเร็วทันต่อเหตุการณ์มากยิ่งขึ้น วารสารทันตภูธรมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง หากท่านผู้อ่านได้รับประสบการณ์ความรู้ใดๆจากการปฏิบัติงานจริง และต้องการให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากบทความที่ได้ตีพิมพ์ในวารสารทันตภูธรไปแล้ว กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านเป็นบทความโดยไม่พาดพิงบุคคลอื่น เพื่อเพิ่มมุมมองที่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะต่อไปค่ะ


สุดท้ายนี้ดิฉันขอความร่วมมือให้ท่านผู้อ่านกรุณาตอบแบบสอบถามเพื่อร่วมพัฒนาเนื้อหาของวารสารทันตภูธร แบบสอบถามนี้ใช้ในการประเมินผลการขอรับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ซึ่งได้กรุณามอบเงินทุนส่วนหนึ่งร่วมสนับสนุนการจัดพิมพ์และจัดส่งวารสารทันตภูธรไปยังทุกองค์กรทั่วประเทศ ขอขอบพระคุณทุกท่านค่ะ

หมออ๋อ บรรณาธิการวารสารทันตภูธร (โทร 038 – 4934543)


IN BOX : ruralmax2007@gmail.com



สิ่งใดก็ตามที่มีคุณอนันต์ก็ล้วนแต่มีโทษมหันต์ ดังนั้นอยากให้ทางทีมงานช่วยเน้นให้เห็นถึงจุดนี้ด้วย เพราะอย่าลืมว่าท่านนั้นเป็นกลาง เปรียบเหมือนสื่อมวลชนต้องเผยให้เห็นทั้งสองด้าน ไม่ใช่เผยเพียงด้านเดียว <
>ขอบพระคุณท่านผู้อ่านที่ท้วงติงมา ทางกองบรรณาธิการยินดีน้อมรับเพื่อปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาการทำงานต่อไปค่ะ ดังที่ท่านกรุณากล่าวว่าวารสารทันตภูธรเปรียบเหมือนสื่อมวลชนซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันตั้งใจไว้ตั้งแต่รับงานบรรณาธิการ ว่าจะทำสื่อวารสารเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายทันตบุคลากรให้มีการแลกเปลี่ยนกิจกรรม ประสบการณ์การเรียนรู้ ร่วมทั้งปัญหาอุปสรรคจากการทำงานต่างๆ ระหว่างวิชาชีพทันตแพทย์ ทันตาภิบาลและผู้ช่วยทันตแพทย์ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อให้เกิดการประสานงานกันอย่างเข้าใจมากขึ้น

เราทุกคนจะได้ทำงานอย่างมีความสุข คนไข้จะได้รับการบริการที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้น วารสารทันตภูธรนำเสนอความคิดเห็นของผู้เขียนบทความทุกท่านโดยอิสระ บ่อยครั้งที่ความคิดเห็นเหล่านั้นไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งเป็นการนำเสนอทั้งข้อดี ข้อเสีย หลากหลายผู้เขียนหลากหลายความคิดในแง่มุมต่างๆ แต่อาจไม่ได้ตีพิมพ์ในวารสารเล่มเดียวกัน ดิฉันคิดว่าความรู้ที่ได้จากการลงมือทำจริงดีที่สุดค่ะ เมื่อได้รับประสบการณ์ใหม่ๆก็เขียนมาเล่าสู่กันฟังเพื่อแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ

ทันตภูธรนำเสนอโดยภาพกว้างเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทันตบุคลากรสนใจทำงานจริงๆในพื้นที่ ซึ่งความรู้ที่ได้รับจากการปฏิบัติจริงด้วยตนเอง จะแตกต่างจากการอ่านรายงานหรือหนังสือเชิงวิชาการค่ะ เมื่อได้พิสูจน์ ได้ปรับใช้ ได้แก้ไขให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จะเป็นการพัฒนา ทันตสาธารณสุขต่อไปค่ะ แน่นอนว่าไม่มีสิ่งใดดีพร้อมสมบูรณ์แบบ วารสารทันตภูธรเองก็เช่นกันค่ะ

ที่น่าสนใจคือเราทุกคนได้เรียนรู้อะไรบ้าง การเปิดใจกว้างและรับฟังทุกความคิดเห็นเป็นสิ่งจำเป็นค่ะ จากการทำวารสารมาตลอด 1 ปี ดิฉันได้พูดคุยประสานงานกับทันตบุคลากรทั่วประเทศ ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความตั้งใจอันดีต่อทันตสาธารณสุขไทยของเราทั้งสิ้น มีคนเก่งๆคนดีๆ อีกมากมายที่ช่วยกันทำงานอย่างเงียบๆในบริบทแวดล้อมและวิถีชีวิตของตนเอง

สิ่งที่ดิฉันได้เรียนรู้จากการทำงานบรรณาธิการ คือ ไม่มีความคิดเห็นใดถูกหรือผิด 100% การช่วยกันแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆด้วยเหตุผลอย่างสร้างสรรค์ จะทำให้เกิดองค์ความรู้ที่กว้างขึ้นและมีประโยชน์ต่อสาธารณะมากขึ้นตามไปด้วยค่ะ ดิฉันยอมรับว่าเป็นบรรณาธิการที่ด้อยประสบการณ์ ยังต้องศึกษาเรียนรู้งานอีกมาก หากมีสิ่งใดที่ผิดพลาดไปบ้าง ต้องขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วยค่ะ และขอบพระคุณท่านผู้อ่านที่กรุณาให้คำแนะนำกองบรรณาธิการวารสารทันตภูธรค่ะ


สวัสดีค่ะพี่อ๋อ ยุ่งมากไหม กำลังรออ่านทันตภูธรนะคะเนี่ย 3 เดือนทำไมถึงนานเหมือน 3 ปีเลย สู้ๆนะคะ<
>ปี 51 เจอกัน ทุก 2 เดือน หายคิดถึงแน่จ้ะ ไปๆมาๆจะบ่นว่าอ่านไม่ทันกันล่ะคราวนี้ แต่ถ้าไม่มีเงินค่าพิมพ์มากพอก็จำต้องกลับมาเจอกันทุก 3 เดือนเหมือนเดิมจ้ะ เพราะหาผู้สนับสนุนยากเต็มที ที่ส่งไปทั่วประเทศได้ก็เพราะมีเงินทุนสนับสนุนบางส่วนมาจาก สสส. ค่ะ ก็รบกวนให้ช่วยบอกเพื่อนๆที่ได้อ่านวารสารทันตภูธรโดยไม่ได้สมัครสมาชิกกรุณาถ่ายเอกสารแบบสอบถามที่หน้า 48 ตอบแบบสอบถามแล้วส่งกลับมายังที่อยู่ของชมรมด้วยนะคะ พี่จะนำไปเสนอต่อ สสส. ว่ามีผู้อ่านวารสารทันตภูธรกันจริงๆ ทาง สสส. จะได้ให้เงินสนับสนุนการพิมพ์การจัดส่งวารสารทันตภูธรและจะได้อ่านกันทั่วประเทศต่อไป ถ้าตอบแบบสอบถามกันน้อย ก็มองได้ว่าวารสารทันตภูธรไม่มีใครอ่าน (หรืออาจจะจริง) หากไม่ได้รับการสนับสนุนมากพอ ในอนาคตอาจจำเป็นต้องลดการส่งลงบ้างเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายแต่ถึงอย่างไรก็ตามสำหรับสมาชิกตลอดชีพของชมรมทันตภูธรทุกท่าน พี่ต้องจัดส่งวารสารไปให้ถึงที่ครบถ้วนแน่นอน ถ้ารักกันจริงก็สมัครสมาชิกกันเถอะนะคะ ขอบใจนะจ๊ะสำหรับแรงเชียร์ สู้ๆ พี่อ๋อหน่ะสู้อยู่แล้ว


สวัสดีค่ะ..หมออ๋อ.....ดีใจที่ได้เข้าร่วมขบวนญาติมิตรอีกคนค่ะ ปลื้มมากเลยค่ะสำหรับทันตภูธร แบบว่า..แอบปลื้มมานานแล้วตั้งแต่สมัยทำงานจบใหม่ ๆ ค่ะที่พี่ ๆ ทันตภูธรจัดปฐมนิเทศทันตแพทย์รพช.ทั่วประเทศ ( สมัยคุณหมออรรถพร คุณหมอบุญฤทธิ์ คุณหมอ ศิริเกียรติค่ะ หมออ๋อน่าจะเกิดไม่ทันนะคะ ...ล้อเล่นค่ะ) พี่ ๆ ทุกคนรวมทั้งพี่แพร ด้วยถือเป็นไอดอลของพวกเราที่มิบังอาจอาจเอื้อมไปนับญาติด้วย ( ถือเป็นของสูงค่ะ..จริง ๆ นะเนี่ย ) พี่ปูน <
>งานนี้ลุง ป้า น้า อา ทันตภูธร ปลื้มปิติ ยิ้มแป้น จนแก้มแทบปริ กันทั่วหน้าแน่เลยค่ะ ปัจจุปันพี่ๆทุกท่านก็ยัง เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ต่อวารสารทันตภูธรอยู่เสมอค่ะ แม้ว่าพี่เอก หมออรรถพร จะกลายเป็นนายแบบโฆษณาก๊าซ NGV ออกทีวีกันไปแล้ว แต่ก็ยังใจดีเขียนบทความมาเล่าประสบการณ์การเป็นนายแบบโฆษณาให้พวกเราชาวทันตภูธรได้อ่านไปยิ้มไปค่ะ ส่วนพี่ศิริเกียรติก็เป็นนักเขียนประจำอยู่แล้ว พี่จารุวัฒน์ก็ส่งบทความมาให้ความรู้เรื่องการเก็บข้อมูลทันตสาธารณสุข ยังมีพี่เมธ์ที่ส่งบทสัมภาษณ์ ทพ.ไพรัช มาให้อีก ไปๆมาๆแล้วพี่ๆทันตภูธรหลายๆท่านก็กลับมาร่วมแรงร่วมใจ ช่วยดูแลชมรมทันตภูธรตามความถนัดและโอกาสจะอำนวยค่ะ

โดยเฉพาะพี่แพรซึ่งถือว่าเป็นผู้ทั้งดูทั้งแลทั้งปลุกทั้งปั้นชมรมทันตภูธร มาอย่างต่อเนื่องและยาวนานค่ะ น่าดีใจที่ขณะนี้ชมรมทันตภูธรมีทีมงานใหม่สดใสไฟแรงไม่แพ้ทีมงานรุ่นพี่ค่ะ คอยฟังข่าวกิจกรรมใหม่ๆของชมรมฯทางวารสารทันตภูธรนะคะ และหากสนใจเข้าร่วมเป็นทีมงานทันตภูธร ก็ยินดีต้อนรับนับญาติมิตรกับทันตบุคลากรทุกท่านทั่วประเทศเลย คนกันเองทั้งนั้นค่ะ ปล. ขอแสดงความยินดีที่พี่ปูนเป็น 1 ในผู้ได้รับตำแหน่งทันตแพทย์ รพช.ดีเด่นภาคใต้ค่ะ พี่ปูนเก่งจัง

หมออ๋อ

0 ความคิดเห็น: