วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ไกลเกินช่องปาก ลึกกว่าคอหอย Return


โดย หมอปลิวจากชายแดนใต้

แนวรบ “ ขนมถุง ” จุดเปลี่ยนที่บางดาน
“ เพียงผีเสื้อขยับปีก ย่อมสั่นสะเทือนไปถึงดวงดาว ”

นงลักษณ์ ศรีชยาภิวัฒน์ หรือ “ครูเจี๊ยบ” ครูตัวเล็กๆ แห่งศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัดบางดาน อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ซึ่งมีเด็กต้องดูแลราว 130 คน หน้าวัดเป็นที่ตั้งของโรงเรียนบางดาน ระดับประถมศึกษา บริเวณนี้จึงเป็นชุมทางของเด็กๆ มีการเปิดร้านรวงขายขนม เครื่องดื่ม ของเล่นเด็ก ทั้งแบบถาวรและมาตามเวลาของการจับจ่ายของเด็ก

“ อยู่มาวันหนึ่งเด็กในศูนย์ของเรา ชื่อว่าน้องน้ำ ล้มป่วยเป็นโรคไต ซึ่งตอนนั้นแกอายุราวสามขวบครึ่งมาพบสาเหตุว่าเพราะกินขนมซอง ” ครูเจี๊ยบเล่า

สาเหตุขนมซองหรือขนมกรุบกรอบอย่างที่เรียกกัน ของน้องน้ำนั้นชัดเจน แม่ของเด็กยอมรับว่าต้องทำงานโรงงาน ส่วนพ่อเป็นช่างซ่อม ไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูกนัก เพิ่งมารู้ว่าที่ลูกขอเงินซื้อขนม ตั้งแต่พอเดินได้ ออกไปร้านค้าทุกครั้งไปซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสำหรับเด็กยี่ห้อหนึ่ง กินมานานแรมปี วิธีการกินไม่ได้ลวกน้ำร้อน เพียงเทเครื่องปรุงลงในเส้นแห้ง ไม่เฉพาะน้องน้ำเท่านั้น น้องน็อต ที่เดินตามกันต้อยๆไปร้านขนมทุกวันก็มีอาการเดียวกัน เพียงแต่ยังไม่รุนแรงเท่า

“มีข้อมูลทางการแพทย์ที่ระบุว่าในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีโซเดียมสูง เป็นสาเหตุของโรคไต ตอนไปเยี่ยมน้องเขาที่โรงพยาบาลสงขลา เห็นภาพเขาต้องกินยา ตัวบวม แม่เด็กบอกว่า พลาดแล้วไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าลูกเอาเงินไปซื้ออะไร เพราะกลับมาถึงบ้านก็เห็นแต่ซองเปล่าทุกที แต่ยังโชคดีที่ไม่ถึงต้องกับฟอกไตซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายมาก” ครูเจี๊ยบเล่า ตอนนั้นคิดว่าในฐานะครูผู้ดูแลเด็ก น่าจะมีสิทธิคุ้มครองเด็ก และปัญหาเหล่านี้ อยู่ใกล้ตัวมาก

ครูเจี๊ยบพบความจริงอันน่าห่วงอย่างหนึ่งว่าอาหารเช้าเด็กบางคนคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินกับน้ำอัดลม จากสรุปบันทึกการกินอาหารของเด็ก ที่ครูเจี๊ยบให้ผู้ปกครองเขียนบันทึกมายังพบว่า
- เด็กยังกินอาหาร ลักษณะที่ซ้ำกัน เช่น บางคนกินข้าวต้ม ข้าวเหนียวไก่ทอด ข้าวมันไก่
- เด็กบางส่วนไม่ได้ทานอาหารเช้ามา
- เด็กบางส่วนดื่มนมอย่างเดียวในมื้อเช้าแม้จะเป็นรายงานที่ไม่แน่ใจว่าผู้ปกครองบันทึกตามจริงหรือไม่ เพราะไม่พบรายงานขนมซอง ซึ่งถ้าเป็นจริงก็น่ายินดีในระดับหนึ่ง

ขนมซองเป็นปัญหาใหญ่ ครูเจี๊ยบนำเสนอข้อมูลสถานการณ์ว่าเด็กสงขลาทุกวันนี้ไม่ต่างจากเด็กที่อื่น ที่มักซื้อขนมและเครื่องดื่มจากแรงกระตุ้นของโฆษณา เลือกซื้อจากขนาดและสีสันของบรรจุภัณฑ์มากกว่าคุณค่า ไม่ต้องพูดว่าข้อมูลบนฉลากยากแก่การเข้าใจ ไม่มีข้อมูลการเตือนถึงผลกระทบต่อสุขภาพหากบริโภคเกินปริมาณที่พอเหมาะ ขนมรสชาติแปลกๆ ที่ออกมาทุกวัน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหลากรสชาติ กลายมาเป็นอาหารหลักของเด็ก แทนที่จะได้กินของที่มีประโยชน์แก่ร่างกาย นอกจากโรคในช่องปากแล้วอาจจะเกิดโรคอื่นตามมาไม่ว่า โรคอ้วน ขาดสารอาหาร ความดันโลหิตสูง ลำไส้อักเสบ


2 กันยายน 2550 ที่ผ่านมาเป็นอีกครั้ง ที่ครูเจี๊ยบจัดกิจกรรม รวมพลังสร้างพฤติกรรมการกินเพื่อสุขภาพเด็ก ในงานดังกล่าวได้การฉายวีซีดี เรื่องพิษภัยจากขนมซอง การเชิญแม่ของน้องน้ำ ที่ตกเป็นเหยื่อจนเป็นโรคไตมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง

กิจกรรมสำคัญอยู่ที่ การนำฉลากขนมซองที่เด็กชอบกินมาให้ผู้ปกครองช่วยกันวิเคราะห์ ซึ่งได้สร้างความตกตะลึงอีกครั้ง เมื่อพบว่า สิ่งที่ลูกซื้อกินอยู่ทุกวันนั้นอันตรายมากเพียงใด หลายอย่างนอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้วยังอาจเกิดโทษ เช่น ผงชูรส การแต่งสีสังเคราะห์ การแต่งกลิ่นสังเคราะห์ แต่งรสเลียนแบบธรรมชาติ เครื่องปรุงรส กรดซิติก สารเคมีในชื่อที่ชาวบ้านไม่มีวันรู้จัก ฯลฯ ยังพบว่าผู้ผลิตจงใจไม่เผยแพร่คำเตือนถึงอันตรายที่จะเกิดจากการบริโภค หรือทำให้สังเกตได้ยาก มีคำเตือนที่ไม่ค่อยมีใครสังเกตเห็นว่า เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน บางอย่างห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบบริโภค หรือบางอย่างห้ามกินมากกว่า 1 ห่อ หรือห้ามกินแทนอาหาร
การรณรงค์เรื่องนี้ที่ชุมชนบางดาน แม้เป็นเรื่องยากแต่แม่ค้ารายหนึ่ง ที่ตั้งร้านขายน้ำอัดลมอยู่หน้าศูนย์เด็กบางดาน เลิกขายน้ำอัดลมอย่างเด็ดขาด หันมาขายอาหารและเครื่องดื่มสุขภาพแทน ประคอง แดงดี และ สุพรรณี แดงดี คือเจ้าของร้านดังกล่าว สุพรรณี แดงดี เล่าให้ฟังว่าเคยได้ฟังเกี่ยวกับอาหารเด็กมาบ้าง อย่างเรื่องกรณีที่น้ำอัดลมมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนกระดูก ตอนกินจะรู้สึกเสียวฟันได้ ในที่สุดปรึกษากับแม่ว่า น่าจะหันมาขายน้ำผลไม้กันดีกว่า ทุกวันนี้จึงขายเฉพาะน้ำผลไม้ ไม่ว่าน้ำมะพร้าว กระเจี๊ยบ เงาะ ลิ้นจี่ เฉาก๊วย โกโก้ ฯลฯ

“ น้ำผลไม้ต้องทำเองทุกขั้นตอน บางอย่างปลูกเองที่บ้านอย่างมะพร้าว การทำน้ำผลไม้ยุ่งยากกว่าไปซื้อน้ำอัดลมมาขาย กำไรก็น้อยกว่า แต่อยากทำเพราะเป็นตัวเลือกให้เด็ก นอกจากจะขายน้ำผลไม้แล้ว ยังคิดจะขายอาหารเช้าเพื่อสุขภาพไม่ว่า ข้าวผัดก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง กำลังจะเสนอผักทอด เป็นเมนูใหม่ให้เด็ก ” สุพรรณีเล่า

ครูเจี๊ยบเล่าว่าเมื่อต้องการให้เด็กเลิกบริโภคขนมซอง ยังเป็นโอกาสทำให้เกิดการฟื้นฟูขนมไทยประจำท้องถิ่น พ่อแม่อาจหันมาทำขนมไทยให้ลูกกิน นอกจากจะได้ความอบอุ่นในระดับครอบครัว ระดับชุมชนบางดานเอง ก็ได้เกิดกระแสนี้ขึ้นด้วย “ พอเราสั่งขนมพวกนี้มาให้เด็กที่ศูนย์ ประโยชน์เกิดทันทีเห็นง่ายๆ กลุ่มก็มีงานทำ แต่เดิมมีกลุ่มทำดอกไม้จันทน์ ซึ่งขายไม่ค่อยได้ เพราะนานกว่าจะมีคนตาย พอได้มาทำขนมก็คึกคักขึ้น ยังเชิญชาวบ้านมาเป็นวิทยากร เป็น ป้าครู น้าครู สอนทำขนม มันเกิดการพึ่งพา เงินทองหมุนเวียนในหมู่บ้าน ทุกวันนี้ไม่ได้สั่งแค่ขนม เพราะทางกลุ่มเขาผลิตพวกน้ำยาล้างจาน สบู่เหลวล้างมือ เราก็สั่งด้วย ”

ครูพี่เลี้ยงตัวเล็กๆ จบปริญญาตรีทางด้าน คหกรรมศาสตร์ ครูเจี๊ยบกำลังเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากกว่าที่คิด เพียงแต่ขยับปีกเงียบๆ ทำอะไรไปเรื่อยๆ หากกำลังสะเทือนไปถึงดวงดาว
แต่..............ทันตบุคลากรกลับหายไปจากวงจรการขยับปีกในครั้งนี้


หมายเหตุ ปรับปรุงจากหนังสือ เพียงผีเสื้อขยับปีก
หนังสือประกอบการจัดงานตลาดนัดสร้างสุขคนสงขลา 2550

0 ความคิดเห็น: