อาการเบื่องาน คงเป็นอะไรที่เกิดขึ้นหลังจากที่คนกลุ่มหนึ่ง เริ่มมาเป็นน้องใหม่ในการรับราชการใช้ทุนเป็นเดือนที่ 4 หลายๆคนเริ่มกระวนกระวาย ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เกิดความรู้สึกกระหาย จึงขวนขวาย เสาะหา อะไรก็ได้ ที่จะพาตนออกไปจากภาระงานเดิมๆ ซ้ำๆ ซึ่งก็ไม่ได้ถึงกับอยากลาออกอะไรหรอก เพียงแต่อยากไปชาร์ตแบตให้ตัวเองชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น จะได้กลับมา “ สู้เว้ย ! ” กับการงานของเราต่อ
วันหนึ่งก็มีจดหมายน้อยมาวางบนโต๊ะ เนื้อความเป็นภาษาคำเมือง ถ้อยคำอ่อนหวานที่ทำให้เคลิบเคลิ้มอย่างบอกไม่ถูก เชิญชวนให้พวกเราชาวทันตแพทย์ เข้าร่วมประชุมวิชาการที่จังหวัดเชียงราย ราวๆกลางเดือนตุลาคม อ่านไปๆก็พูดถึงสถานที่ท่องเที่ยว ที่เริ่มมีสายลมเย็นๆ ต้นฤดูหนาวพัดผ่านให้หนาวใจ บรรยายถึงน้ำเต้าหู้ร้อนๆ ที่ชวนให้จินตนาการว่ากำลังนั่งซดอยู่ริมฟุตบาทเพื่อดับกระหายหลังจากที่ขี่จักรยานชมเมืองมาเหนื่อยๆ ณ ตอนนั้นจิตใจของทันตแพทย์ตัวน้อยๆถูกสะกดให้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว โทรหาเพื่อนคนแล้วคนเล่า ปากก็พร่ำบอกว่า มานะๆ มาประชุมเชียงรายกันนะ คิดถึงพวกแกนะ ทีมงานเค้าพาเที่ยวด้วยนะ คงเป็นเพราะความน่าสนใจของจังหวัดที่จัดการประชุมในครั้งนี้ บวกกับโปรแกรมเสริมช่วงเย็นที่น่าสนใจมาก ทำให้ในที่สุด ทันตแพทย์จากทั่วสารทิศเหนือใต้ออกตก ต่างก็ตกลงปลงใจจะมาแอ่ว...เอ๊ยมาประชุมวิชาการ ณ ดินแดนเหนือสุดแห่งสยาม
มักมีคำถามส่งไปถึงทพ.ที่เชียงรายว่า ต้องรีบสมัครไหม จะเต็มไวรึเปล่า ซึ่งก็มักได้รับคำตอบว่า ครั้งก่อนที่จัดที่อื่นก็คนมาไม่เยอะเท่าไร ไม่ต้องกังวลไป ไม่เต็มหรอก แต่หารู้ไม่...ว่าในที่สุดแล้ว การประชุมนี้กลายเป็นงานที่ทพ.กรีฑาทัพมากันถล่มทลาย มืดฟ้ามัวดิน เรียกว่ามากันเกือบหมดประเทศเลยก็ว่าได้ จากที่คิดไว้ว่าไม่เกินร้อยห้าสิบ เห็นว่ามากันสี่ร้อยกว่า... พุทโธ ธัมโม สังโฆ... นักขน๋าด
15-16-17 ตุลาคม 2551 คือวันที่หลายคนเฝ้าคอย สถานที่จัดงานคือ ดุสิตไอส์แลนด์ รีสอร์ต โรงแรมระดับห้าดาวที่พวกเรา (ที่เบิกจากต้นสังกัด) จะได้นอนฟรี แรกก้าวเข้าสู่ห้องพักก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแบบล้านนา เตียงเดี่ยวสองเตียงถูกวางไว้คู่กัน ถัดไปเป็นโซฟาแบบหลุยส์ สุดห้องมีกำแพงกระจกใส มองเห็นภูเขา ริมน้ำกก และทุ่งหญ้าเขียวขจี หันกลับมาพบกับห้องน้ำ ภายในมีอ่างอาบน้ำ ห้องอาบน้ำ อ่างล้างหน้าและชักโครก(ที่ห้ามมีสายชำระ...แสบอีกละ) ประตูบานเลื่อนที่เป็นซี่ๆ คนภายนอกสามารถ locate ตำแหน่งของคนภายในได้ และที่สำคัญคือ...ล็อคยังไงเนี่ย ?
งานครั้งนี้ทพ.ก็ใช้วิธีเดินทางกันมาในหลายรูปแบบ ทั้งรถส่วนตัว รถทัวร์ แต่ก็คงจะเป็นเครื่องบินกันเสียส่วนใหญ่ ต่างก็ลงเครื่องกันมาทั้งรอบเช้า สาย บ่าย เย็น แต่รอบดึกนี่สิเครื่องดีเลย์จากสามทุ่มครึ่งเป็นเที่ยงคืนกว่า เล่นเอาหลายคนรอจนเซ็ง... ผู้อ่านคงรู้ว่าสายการบินอะไร เพราะใครๆ ก็บินได้ Everyone can fly…
เช้าวันแรกของการประชุม หน้างานคึกคักมาก เริ่มต้นด้วยการไปลงทะเบียนที่โต๊ะกลาง รับถุงผ้าลดโลกร้อนมาหนึ่งถุง จากนั้นก็เดินไปลงทะเบียนที่โต๊ะกิจกรรมท่องเที่ยว ความประทับใจแรกคือ น้องใหม่รับราชการปีแรก จะได้เที่ยวฟรีเกือบทุกกิจกรรม มีทั้งรับประทานอาหารที่ไร่แม่ฟ้าหลวง ขี่จักรยานเที่ยวชมเมืองเชียงรายยามเช้า ไปวัดร่องขุ่น บ้านอ.ถวัลย์ ดัชนี และกิจกรรมสุดฮิต ชอปปิ้งที่แม่สาย พาไปนอนดอยตุงด้วย ตรงข้ามโต๊ะมีบอร์ดประชาสัมพันธ์กิจกรรมดังกล่าว มีรูป มีรายละเอียด ทำให้กิจกรรมดูน่าสนใจมาก จนทำให้มีคนมาสมัครเพิ่มเติมเยอะแยะมากมาย ซึ่งพี่ๆก็สามารถลงชื่อร่วมกิจกรรมได้ แต่อาจต้องจ่ายเงินเอง เมื่อลงทะเบียนกิจกรรมแล้วก็จะได้บัตรเชิญงานเลี้ยงไร่แม่ฟ้าหลวง คูปองรับจักรยาน ตั๋วรถโดยสารและเสื้อยืด Dental Health Team (เฉพาะน้องใหม่ภาคเหนือ) เป็นลายจักรยานไอเดียดีทีเดียว :D
พอจะเริ่มงานก็มีพริตตี้ในชุดชาวเขามาเคาะฆ้องเชิญเข้าห้องประชุม เข้ามาในห้องก็พบโต๊ะจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบด้านหน้ามีเวทีขนาดใหญ่พร้อมจอสำหรับโปรเจคเตอร์ ซ้ายของเวทีมีจอเล็กๆขึ้นข้อความน่ารักๆ เปลี่ยนเป็นระยะ เก๋ไก๋ไปอีกแบบ
พิธีเปิดเริ่มต้นด้วยวีดิทัศน์สมเด็จย่า เล่าถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน รวมถึงความเป็นมาของมูลนิธิพอ.สว. จากนั้นเป็นฟ้อนรำพื้นเมืองและการแสดงกลองสะบัดชัย จากนักเรียนโรงเรียนสามัคคีวิทยาคม พวกเรามีโอกาสได้พบกับ รองนายแพทย์สสจ. และรองผู้อำนวยการรพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ คณบดีคณะทันตแพทย์ มช. ที่มากล่าวเปิดงานและพูดคุยกับผู้ร่วมประชุม ประเด็นหนึ่งที่ท่านชื่นชมก็คือความกลมเกลียวสามัคคีของทีมทันตแพทย์เชียงราย และรู้สึกทึ่งกับกิจกรรมรับน้องใหม่ที่เกิดขึ้นมาได้ อย่างที่ใครเคยทำได้มาก่อน

เมื่อลงมาจากห้องพัก ก็เห็นรถบัสสองคันมาจอดรออยู่ที่หน้าโรงแรม พวกเราที่เป็นน้องใหม่ได้ถูกจัดไว้ให้ขึ้นรถคันแรกเพื่อเดินทางไปยังไร่แม่ฟ้าหลวง ประมาณสามสิบนาที ก็ถึงที่หมาย เบื้องหน้าเป็นสนามหน้าริมทะเลสาบ มีเสาไม้สูงๆถูกตั้งเรียงไว้กลางสนามหญ้าอย่างสวยงาม พวกเราน้องใหม่ ได้รับพวงมาลัยมะลิหอมๆ และกล่าวยินดีต้อนรับสู่ชีวิตราชการจากพี่ๆทันตแพทย์ภาคเหนือที่มารออยู่ก่อนแล้ว เราได้ถ่ายรูปร่วมกัน แล้วจากนั้นก็มีมัคคุเทศก์พาเดินเข้าไปชมภายในไร่ ภายในไร่มีต้นไม้มากมาย ร่มรื่นมาก เราได้เดินบนสะพานไม้เพื่อข้ามทะเลสาบ ได้เข้าไปชมในหอแก้ว ภายในมีศิลปวัตถุของล้านนาจัดแสดงมากมาย ตรงกลางของหอมีพระพุทธรูปพล้าโต้ที่อยู่บนยอดเสา แสงอาทิตย์สีเหลืองยามเย็นลอดหลังคาเข้ามาทาทาบพอดี ดูศักดิ์สิทธิ์และสวยงาม



ต่อมาเป็นหอพิพิธภัณฑ์ที่ภายในจัดนิทรรศการประวัติศาสตร์ล้านนา สักพักก็มีการแสดงต้อนรับเป็นฟ้อนรำแบบล้านนา สร้างความประทับใจและเรียกเสียงปรบมือได้มากทีเดียว จากนั้นเราก็ไปกันที่ศาลาริมน้ำ บริเวณที่จะรับประทานอาหารกัน เริ่มงานมีการกล่าวต้อนรับจากทพ.โคสิต สสจ.เชียงราย ต่อด้วยการแสดงจากไร่แม่ฟ้าหลวง แล้วก็มีพิธีผูกข้อมือรับทันตแพทย์น้องใหม่ ส่วนช่วงไฮไลท์ของงานในคืนนี้ คือการแสดงมุทิตาจิตแก่ อ.อุทัยวรรณ อ.อัญชลี และ อ.มิ่งขวัญ คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ในโอกาสที่เกษียณอายุราชการ ช่วงท้ายมีการจุดเทียนร้องเพลงพระคุณที่สาม ภาพแห่งความรักของครูและลูกศิษย์จากกิจกรรมนี้ทำให้รู้สึกประทับใจแก่พวกเราที่ได้พบเห็น



จากนั้นเป็นการแสดงกลางน้ำสุดแสนอลังการ เป็นขบวนเรือมาจากที่ไกลๆ มีคบไฟ เทพธิดาที่ร่ายรำหลอกล่อสัตว์ในวรรณคดีสีเขียว ล่องจนมาถึงฝั่งของพวกเรา สุดท้ายพวกเราก็ได้ลอยโคมยี่เป็ง ณ ริมน้ำแห่งนั้น ลอยกันเป็นกลุ่มๆ หลายโคมพุ่งทะยานขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว บางโคมคงรวบรวมเอาคำอธิษฐานเยอะไปหน่อย (ได้แก่ของน้องใหม่มหิดล และ เชียงใหม่) เกิดปรากฏการณ์ลอยไม่ขึ้น เรียกเสียงกรี๊ดฮาจากผู้ปล่อยและสร้างความสนุกสนานแก่คนรอบข้างได้ดีทีเดียว จากนั้นก็ทยอยขึ้นรถกลับ และต้องรีบเข้านอน เพราะพรุ่งนี้นัดรวมตัวกันตีห้าครึ่งครับ ตีห้าครึ่งอ่านไม่ผิดหรอกครับ เพราะนี่คือเวลาที่นัดรวมตัวผู้ที่จะออกไปขี่จักรยานชมเมืองรับลมหนาวยามเช้า แรกลงมาก็ตกกะใจกับปริมาณจักรยานที่ทีมงานหามาไว้ ต้องเรียกว่ากองทัพจักรยาน ร่วม 200คัน ยังไม่พอยังมีรถสามล้อถีบอีกราวๆสามสิบคันพร้อมโชเฟอร์หนุ่ม(เหลือ)น้อย คงจัดไว้สำหรับคณะ VIP


ขบวนเริ่มออกเดินทางตอนหกนาฬิกาตรง เช้าวันนั้นอากาศเย็นสบายแต่ไม่ถึงกับหนาว นักปั่นกว่าเก้าสิบชีวิตขี่กันไปตามถนน บางคนได้จักรยานเสือภูเขา21เกียร์ บางคนได้จักรยานอาแปะดูคลาสสิคไปอีกแบบ มีคุณตำรวจใจดีมาปิดถนนให้เราขี่กันอย่างปลอดภัยตลอดเส้นทาง ไม่นานเราก็มาถึงห้าแยก ที่ตั้งของรูปปั้นพ่อขุนเม็งราย ผู้เป็นเจ้าเมืองที่เคารพนับถือมานานของชาวเชียงราย เราจอด จักรยานเป็นร้อยคันกันบนฟุตบาท เล่นเอาชาวเมืองเชียงรายที่สัญจรผ่านมางงกันเป็นแถบนึกว่าม็อบอะไรมาปิดห้าแยก ดีที่ว่าท้ายสามล้อถีบทุกคันมีป้ายรณรงค์ลดโลกร้อนช่วยคลายความสงสัย เราสักการะพ่อขุนเม็งราย แล้วถ่ายรูปรวมทันตแพทย์ลดโลกร้อนไว้เป็นที่ระลึก แล้วจึงเดินทางต่อ


เราขี่ผ่านกาดหลวง (ตลาดใหญ่) แล้วไปพักดื่มน้ำเต้าหู้ ฟักทอง งาดำ และปาท่องโก๋ที่สวนตุง ข่าวว่าอภินันทนาการจากทพ.แห่งสสจ.เชียงราย สวนตุงเป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ตรงข้ามศูนย์ส่งเสริมทันตสุขภาพ ออฟฟิศของทพ.สสจ. ที่เมื่อมองขึ้นไปบนชั้น2ก็จะมีป้ายไวนิลต้อนรับแขวนอยู่ว่า “ภูมิใจฮับปี้ ยินดีฮับน้อง ด้วยใจเพื่อนพ้อง ทันตฯเชียงราย” น่ารักจริงๆคุณเจ้าภาพ
หลังเติมพลังแล้วเราก็มุ่งหน้าสู่วัดพระแก้ว โดยระหว่างทางก็ได้ผ่านหอนาฬิกาประจำเมืองเชียงราย ได้ชื่อว่าเป็นหอนาฬิกาที่สวยที่สุดในโลก สีทองอร่าม ออกแบบและก่อสร้างโดย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์

วัดพระแก้วแห่งนี้ เคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกตซึ่งต่อมาได้ย้ายไปอยู่ที่วัดพระแก้วที่กรุงเทพ ต่อมาชาวเมืองก็ได้ร่วมกันจัดสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาใหม่ คือ พระหยกเชียงราย ไว้ ณ วัดแห่งนี้ วัดพระแก้วเป็นที่แวะแห่งสุดท้าย ตอนนั้นเวลาก็เกือบเจ็ดโมงแล้ว พวกเราจึงพากันขี่กลับโรงแรม มีคนเล่าว่า ผู้จัดการประชุมงานก่อนๆ ก็เคยทำกิจกรรมขี่จักรยานลักษณะนี้ขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้เป็นที่ฮือฮาและคนก็ไม่ได้เยอะขนาดนี้ แต่มันกลับเกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการที่เชียงราย ทำให้รู้สึกว่า ทพ.เรานี่กล้าหาญชาญชัยดีเนอะ กล้าคิด กล้าทำ กล้าร่วม ไปไหนไปด้วย เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และจากกิจกรรมในเช้าวันนั้น ก็ทำให้เราได้รับคำชื่นชมมากมายจากวิชาชีพอื่นๆ

ตกเย็นหลังเลิกประชุม มีรถมารอรับพาไปส่งวัดร่องขุ่นหรือบ้าน อ.ถวัลย์ ดัชนี แล้วแต่ว่าใครอยากไปเที่ยวที่ไหน ข่าวว่ากลุ่มที่ไปบ้านอ.ถวัลย์นี่ ได้พบกับอาจารย์ตัวจริงด้วย เสียดายที่ฝั่งทางวัดร่องขุ่นไม่มีโอกาสได้พบกับ อ.เฉลิมชัย แต่เมื่อได้เดินชมสัมผัสความสวยงามของสถาปัตยกรรมและปฏิมากรรมของวัดร่องขุ่นแล้ว บอกได้คำเดียวว่านี่คือผลงานระดับโลกจริงๆ

เอาล่ะคงต้องพูดถึงบรรยากาศการประชุมบ้างแล้ว มิฉะนั้นท่านผู้อ่านอาจจะเข้าใจว่ามาเชียงรายครั้งนี้เด่นแต่เรื่องเที่ยว ประเด็นหลักของการประชุมวิชาการครั้งนี้คือ “ทันตกรรมเพื่อความงาม (Esthetic dentistry)” ทั้งในด้าน Restorative, Fixed-Removable prosthodontics, Periodontal esthetic, Implants, พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคฉบับใหม่กับผลกระทบต่อวิชาชีพทันตแพทย์ และ หลักการ Presentation ที่ดีสำหรับทันตแพทย์ โดยเหล่าวิทยากรนั้นก็ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงระดับประเทศ เมื่อได้ฟังไอเดียในการทำงาน หลักการที่ทำให้ประสบความสำเร็จ รวมถึงภาพผลงานที่ท่านวิทยากรได้นำมาแสดง ทำให้รู้สึกถึงความเก่งกาจ ขออนุญาตใช้คำแบบวัยรุ่นๆว่า “เทพ” ตัวจริง ในการบรรยายก็มีทั้งสาระความรู้ เทคนิคที่นำไปใช้ได้จริง เคล็ดลับแห่งความสวยงาม รวมทั้งความสนุกสนานระดับที่ไม่แพ้เดี่ยว 7 ทั้งนี้ทั้งนั้น มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ในแต่ละชั่วโมงบรรยายนั้นเต็มไปด้วยความครึกครื้นก็คือ ผู้เข้าฟัง เพราะจำนวนผู้เข้าฟังในแต่ละหัวข้อไม่เคยน้อยกว่า 70%เลย ทำให้ทั้งงานรู้สึกอบอุ่น สร้างความประทับใจต่อวิทยากรเป็นอย่างมาก ที่เพื่อนพี่น้องทันตแพทย์ให้เกียรติเข้าฟังอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ซึ่งก็เป็นเช่นนี้ตั้งแต่วันแรกจนกระทั่งถึงวันสุดท้าย ทำเอาผู้จัดและวิทยากรต่างก็ปลื้มใจไปตามๆกัน

ยังไม่หมด แม้ในวันที่ 17 จะมีพิธีปิดการประชุมอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ก็ยังมีกิจกรรมกันต่อ โดยมีรถตู้เกือบสิบคันสำหรับผู้ที่ต้องการไปจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าช่วยชาติ (พม่า) ได้ ทุกท่านเข้าสู่ด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก พรมแดนไทย-พม่า ซึ่งทีมงานได้เตรียมวีซ่าแบบวีไอพีให้ก่อนล่วงหน้าแล้ว จึงข้ามแดนไปได้อย่างสะดวกสบาย จนทำให้เงินบาทในกระเป๋าสตางค์ทันตแพทย์ไทย ไหลออกสู่ต่างชาติอย่างรวดเร็วภายในไม่ถึงเวลา 3ชั่วโมง แต่เดี๋ยวก่อนยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สำหรับน้องใหม่ทั้งหลาย เค้ายังมีกิจกรรมพาขึ้นไปนอนบนดอยตุงอีก โดยไปทำกิจกรรมกันบนดอย รับประทานอาหารเย็นแบบเมืองๆ ตกค่ำก็มีการล้อมวงนั่งคุยกัน โดยมีพี่ๆทันตแพทย์อาวุโสในเชียงราย มาถ่ายทอดประสบการณ์ ให้ข้อคิดดีๆแก่รุ่นน้องทั้งในด้านการทำงาน การดำเนินชีวิต และการใช้ชีวิตคู่ เช้าวันต่อมาก็พากันขึ้นไปเที่ยวชมพระตำหนักดอยตุง และ สวนแม่ฟ้าหลวง
แล้วในที่สุดก็ถึงเวลากลับบ้านจริงๆสักที คิดแล้วก็ใจหาย เวลา 5 วันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว เป็นเวลาที่มีความสุขมากอีกช่วงหนึ่ง เพื่อนๆบอกว่าอยากให้ปีหน้าจัดที่เชียงรายอีก จัดทุกปีได้เลยยิ่งดี จะได้มาละลายทรัพย์ที่แม่สายอีก และรู้สึกดีใจมากที่ได้มางานประชุมครั้งนี้ งานประชุมก็ดี กิจกรรมก็สนุก มีการเตรียมงานอย่างดี และบริหารจัดการที่น่าประทับใจ สรุปแล้วคือทุกอย่างโอเค ขอปรบมือให้เจ้าภาพในครั้งนี้ ทั้งชมรมทันตแพทย์ภาคเหนือ คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่ และทีมทันตบุคลากรเชียงราย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น