
ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับน้องๆDent จบใหม่ทุกคนเลยนะคะ พอดีจุ้มจิ้มมีโอกาสได้ไปพูดคุยกับน้องๆในงานปัจฉิมนิเทศของ Dent มข. รุ่น 2 โหล (น้องๆเค้าเรียกตัวเองอย่างนี้กันค่ะ น่ารักดีนะคะ) ก็เลยมีโอกาสอวยพรน้อง มข. ไปแล้ว งั้นก็ขออวยพรให้น้องๆ Dent จบใหม่ในปี 2552 ที่นี่ทุกๆคนเลยนะคะ วันจับปิงปองนี้ก็ขอให้ที่ดีๆจงมีอยู่กับทุกๆคนค่ะ ฮ่าๆๆ นอกจากแสดงความยินดีแล้ว ก็ต้องขอต้อนรับน้องๆทุกคนด้วยนะคะ ยินดีมากๆที่จะมีทันตบุคลากรเพิ่มขึ้น จะได้มีคนมาช่วยดูแลประชาชนเพิ่มขึ้นด้วย ก็อย่างที่รู้กันล่ะค่ะ ว่าเราเป็นบุคลากรในวิชาชีพที่ขาดแคลนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ห่างไกลความเจริญ
จุ้มจิ้มได้บรรยายให้น้องๆที่ มข. ฟังไปแล้วถึงความภูมิใจในวิชาชีพทันตแพทย์ที่เรียนมาว่าภูมิใจมากแค่ไหน และสิ่งสำคัญที่จุ้มจิ้มรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้มาเป็นทันตแพทย์ ก็เพราะว่ามีไม่กี่อาชีพในโลกนี้หรอกค่ะที่ได้ทำงานและทำบุญไปด้วยพร้อมๆกัน เพราะคนที่มาหาเรานั้น มาด้วยความทุกข์ทรมานจากโรคร้ายต่างๆในช่องปากใช่มั้ยคะ? โดยเฉพาะการปวดฟันเนี่ย มันทรมานมากๆเลย เคยได้รับการยืนยันจากคุณแม่หลายท่านมาแล้วว่า ปวดฟันนั้นทรมานกว่าปวดท้องคลอดลูกซะอีก (ตอนแรกจุ้มจิ้มก็แอบงงนิดหน่อย ในฐานะที่เคยแต่ปวดฟันค่ะ ฮ่าๆ) แต่หลายท่านก็ให้เหตุผลตรงกันว่า ปวดท้องคลอดลูกยังมีช่วงพักให้หายใจหายคอบ้าง แต่ปวดฟันนี่สิ!! แหม...บทมันจะปวดขึ้นมา มันปวดจี๊ดดดดขึ้นสมอง ไม่ยอมให้พักกันเลย กินยาแก้ปวดขนาดไหนก็เอาไม่อยู่ ต้องมาให้หมอฟันจัดการให้ อืมมม..เห็นมั้ยล่ะคะ การที่เราได้ช่วยคนให้พ้นจากความทรมานมากๆขนาดนั้นเป็นบุญกุศลแค่ไหน แค่คิดก็รู้สึกดีมากๆเลยล่ะค่ะ
สำหรับจุ้มจิ้มแล้ว การได้เป็นทันตแพทย์เป็นสิ่งที่ภูมิใจที่สุดในชีวิตค่ะ ตอนที่ออกจาก Academy ใหม่ๆ ต้องทำงานบันเทิงเยอะมากๆ ก็เลยมีหลายคนถามว่าลาออกจากหมอฟันแล้วเหรอ? จุ้มจิ้มสงสัยว่า เอ๊...เป็นหมอฟันนี่ลาออกได้ด้วยเหรอ ฮ่าๆๆ
เป็นหมอฟันนี่นะคะไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานในวิชาชีพได้เสมอค่ะสังเกตได้ว่า ไม่ว่าเราจะไปที่ไหน อยู่ท่ามกลางคนกลุ่มใด ศิลปิน ดารา นักร้อง นักธุรกิจ พระสงฆ์องค์เจ้า เด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา เพียงเค้ารู้ว่าเราเป็นหมอฟันเท่านั้น เค้าจะต้องมีปัญหาเรื่องในปากมาปรึกษาเสมอค่ะ เห็นมั้ยคะว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เราก็ยังเป็น “หมอของฟัน” เสมอค่ะ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น