วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553

ทันตสุขภาพเพื่อคนพิเศษ : เยี่ยมบ้าน


ทันตสุขภาพเพื่อคนพิเศษ : เยี่ยมบ้าน กิจกรรมการลงพื้นที่ชุมชมเพื่อออกเยี่ยมบ้านของฉันในวันนี้ เป็นครั้งแรกหลังจากลาออกจากราชการมาร่วม 10 ปี ด้วยภารกิจงานส่งเสริมทันตสุขภาพเพื่อคนพิเศษ ของสถาบันส่งเสริมสุขภาพคนพิการ ทำให้ฉันมีโอกาสพิเศษในการออกพื้นที่เยี่ยมบ้านคนพิการ กับโรงพยาบาลบางใหญ่ โดยมี พี่แพร เจ้าแม่บางใหญ่ และเป็นทุกสรรพสิ่งของน้องๆในชมรมทันตสาธารณสุขภูธรทุกคน ได้กรุณาเปิดพื้นที่ให้ฉันได้เข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่เป็นกรณีพิเศษ ด้วยความตื่นเต้นระคนตื่นตูมในแบบที่ฉันเป็น ทำให้ฉันไปถึงบางใหญ่ตั้งแต่ 7โมงเช้า ทั้งๆที่เวลานัดประมาณ 8.30 น. ไม่มีใครเลยในห้องฟัน นอกจากบรรดาหนังสือหนังหามากหน้าหลายตาหน้าห้องฟันของโรงพยาบาลบางใหญ่ ที่พอจะเป็นเพื่อนพูดคุยกับฉันได้บ้าง เล่มแล้วเล่มเล่าในเช้าวันนั้น อืมมมม...เห็นที ต้องกลับไปบอกกองบรรณาธิการให้พัฒนาวารสารทันตภูธรซะบ้างแล้ว ดูดิ๊ วารสารอื่นต่างๆนานา ในแวดวงสาธารณสุข เค้าดูดี๊ ดูดี น่าสนใจทั้งนั้นเลย เมื่อถึงเวลานัดหมาย 8.30 น. พี่แพรมาแล้ว พี่แพรลากลังพลาสติกสีขาวลังใหญ่ พร้อมด้วย gift set เตรียมไว้หลายชุด เพื่อนำไปฝากทุกๆบ้านที่เราคุณหมอพี่คุณหมอน้องจะไปเยี่ยมเยียนกันในวันนี้ แฟ้มสีเขียวเก็บเอกสารที่ใช้กรอกข้อมูลคนพิการในแต่ละบ้านที่เรามีรายชื่อคนพิการและอยู่ในแผนการทำงานแบบสุ่มเยี่ยมวางเตรียมพร้อมอยู่บนลังพลาสติก พี่แพรโทรตามคนสำคัญ ตอนแรกฉันก็ไม่รู้เลยว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องมีคนสำคัญร่วมทีมไปกับเราด้วย เธอคนนั้นก็คือ พี่จิ๋มหัวหน้าอสม.ประจำอำเภอบางใหญ่ โทรกันไปโทรกันมา สรุปว่าให้คนขับรถพาพวกเราไปรับพี่จิ๋มที่บ้านเลยก็แล้วกัน เมื่อไปรับพี่จิ๋มแล้ว พี่จิ๋มก็พาไปรับใครอีกคน เป็นคนสำคัญที่ ชื่อพี่กู้ หัวหน้าอสม.ประจำหมู่ 6 หมู่ที่เราจะไปเยี่ยมบ้านกันในวันนี้ เอาล่ะนะ คนขับรถของโรงพยาบาลตระเวนรับกันครบแล้วนะคะ ได้เวลาปฏิบัติงานกันจริงๆจังๆซะที ตื่นเต้นๆๆ เริ่มต้นที่บ้านคุณยายน้องโอ๊ตเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลบางใหญ่ ท่านเดินไม่ได้เนื่องจากโรคเบาหวาน ขณะนี้ดูแลโดยลูกสาว แต่ท่านคิดถึงลูกชายที่ไม่ค่อยมีเวลามาเยี่ยม พูดถึงลูกชายทีไร คุณยายน้ำตาไหลทุกที ลูกสาวคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ทั้งอาบน้ำอาบท่าหาข้าวหาปลาให้ทาน ยังดีที่มีแก้วตาดวงใจน้องโอ๊ตหลานชายคนเก่งที่คุณยายภาคภูมิใจนักหนา ว่าข้าเลี้ยงของข้ามากับมือ ความรู้สึกปลื้มในหลานชายคนโปรดช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่นในหัวใจและสร้างเสียงหัวเราะให้หญิงชราให้ลืมนึกถึงลูกชายไปได้บ้าง เมื่อตรวจฟันก็พบว่าคุณยายไม่ค่อยจะมีฟันแล้ว ในปากเหลือแต่เหงือกเป็นส่วนใหญ่ ส่วนน้อยที่พบได้บ้างประปรายเป็นรากฟันที่ผุคาเหงือกอยู่ สอบถามได้ความว่าคุณยายไม่ค่อยสนใจจะปวดฟัน ด้วยเรื่องอื่นๆมันน่าสนใจมากกว่า ตามประสาจิตใจที่วิ่งวนไปมา หากแต่ร่างกายไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหนมาไหนได้ดังใจปรารถนา หากคุณยายปวดฟันพี่แพรบอกให้ลูกสาวโทรไปตาม จะมาถอนฟันให้ถึงที่ค่ะ พี่แพรแนะนำวิธีใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าให้แก่ลูกสาวผู้ดูแลคุณยาย ลูกสาวคุณยายเล่าให้ฟังว่า “ก็แบบนี้ไงที่หนูจะซื้อให้แม่ แต่แม่ด่าหนูวันนั้นอ่ะ” ยังไม่มีใครถามว่าคุณยายด่าเรื่องอะไร ลูกสาวยายก็เล่าเสียเองว่า “แกกลัวเจ้าหัวหมุนๆจะหลุดเข้าคอแก” นอกจากแปรงสีฟันไฟฟ้าแล้วยังมีน้ำยาบ้วนปาก ยาสีฟัน แปรงสีฟันธรรมดา รวมทั้งถ่ายไฟฉายก้อนเล็กเอาไว้ใส่แปรงสีฟันไฟฟ้าเมื่อถ่านชุดเก่าหมด พี่แพรก็จัดเตรียมไว้ให้อยู่ในห่อ Gift set อย่างหรูจาก โรงพยาบาลบางใหญ่ค่ะ ฉันเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างยิ่งในการนำของขวัญติดไม้ติดมือไปเยี่ยมบ้าน ของขวัญเล็กๆน้อยๆหรือ gift set อย่างหรู (ถ้ามีงบประมาณมากพอ) น่าจะช่วยสื่อสารด้วยอวัจนภาษาถึงไมตรีจิตอันดีงามที่เราตั้งใจให้ต่อผู้ที่เราไปเยี่ยมเยือนค่ะ แต่แม้จะไม่มีสิ่งของใดๆไปกำนัล ฉันก็เชื่อว่าคนไข้ทุกคนย่อมรู้สึกดีที่คุณหมอไปเยี่ยมถึงบ้านอยู่แล้วล่ะค่ะ ขณะที่คุณยายและลูกสาวกำลังตั้งใจฟังพี่แพรให้ทันตสุขศึกษาอยู่นั้น หน้าที่ตากล้องมือสมัครเล่นอย่างฉันก็ถ่ายภาพนั้นนี้โน้นไปตามเรื่อง พี่หมอแพรบอกให้ถ่ายบรรยากาศของบ้านด้วย ..โอเค..ค่ะ จากบ้านคุณยาย เราไปเยี่ยมอีกหลัง เป็นบ้านไทยโบราณริมน้ำของสาวสวย ชื่อพี่อุ้มค่ะ พี่อุ้มอายุ 40 เศษ เป็นคนน่ารัก รูปร่างตุ้ยนุ้ย อารมณ์ดีดี๊ดี กับคนคุ้นเคย ซึ่งคนคุ้นเคยสุดๆที่ช่วยให้การไปเยี่ยมเยียนพี่อุ้มเป็นไปอย่างเนียนแต๊เนียนวา ก็ไม่พ้นคนสำคัญของชุมชน คืออสม.ที่ไปกับเราด้วยนั่นเองค่ะ
พี่กู้อสม.ประจำหมู่ 6 รู้จักมักจี่สนิทสนมกับพี่อุ้มมากๆ ช่วยสอนพี่อุ้มใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าที่กดแล้วมีเสียงดังวื้อๆๆ พร้อมหัวแปรงหมุนติ้วๆๆ สร้างความฉงนสนเท่ห์กับพี่อุ้มไม่น้อยเชียวล่ะค่ะ หลังจากหายตื่นตะลึงกับเสียงเครื่องจักรหมุนเองได้ที่หน้าตาคล้ายแปรงสีฟันแล้ว กองเชียร์ก็เฮโลชวนเชิญให้พี่อุ้มทดลองใช้แปรงสีฟันด้ามใหม่ที่คุณหมอแพรนำไปฝาก พี่อุ้มเชียร์ขึ้นค่ะ ฉันสังเกตว่าพี่อุ้มจับแปรงสีฟันไฟฟ้าอย่างถนัดถนี่ มิได้สนใจสงสัยใดๆต่อสุ้มเสียงหรืออาการสั่นๆของแปรงสีฟันไฮโซนี้แต่อย่างใด...พี่อุ้มตั้งใจแปรงฟันอย่างมุ่งมั่นค่ะ ...โอ้..แม่คุณ 3 นาทีผันผ่านล่วงเลยแล้ว พี่อุ้มเธอแปรงฟันได้เก่งกาจยิ่งกว่านักเรียนทันตแพทย์บางคนเสียอีก (น่าจะเป็นฉันเอง) คงด้วยความที่นานๆจะมีคนแปลกมาเชียร์พี่อุ้มให้แปรงฟันอย่างเต็มรูปเช่นนี้เสียที จึงสังเกตเห็นได้ชัดว่าฟองยาสีฟันนั้นกลายเป็นสีชมพูสดๆเลยล่ะค่ะ หลังแปรงฟัน คุณหมอพี่แพรตรวจฟันให้เอ่ยปากชมว่าฟันพี่อุ้มขาววาวว๊าบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มองไปมองมาก็ป๊ะกับคราบหินปูนมากมายตามคอฟันขอบเหงือก คุณหมอพี่และคุณหมอน้องที่ไปเยี่ยมบ้านพี่อุ้มด้วยกัน มองตากันปริบๆ ...เอ...พี่อุ้มน่าจะได้ รับการขูดหินปูนเพื่อบรรเทาอาการเหงือกอักเสบและลดคราบหินปูนเขียวๆนี้ลงบ้างนะเนี่ยนะ… แต่จะเริ่มต้นอย่างไรกันดีล่ะ สำหรับสาวสวยคนพิเศษร่างใหญ่คนนี้ อืมมมม..คุณหมอพี่ คุณหมอน้อง ขออนุญาตกลับฐานที่ตั้งเดิมไปคิดแนวทางการรักษาที่เหมาะสมเป็นการบ้านต่อไปค่ะ ก่อนจากบ้านพี่อุ้มมา พี่แพรฝากพี่กู้ อสม.คนสนิท ช่วยตามมาเปลี่ยนถ่านแปรงสีฟันไฟฟ้าให้พี่อุ้มด้วย

เราไปเยี่ยมบ้านอื่นๆต่อกันอีกหลายบ้านซึ่งฉันคงจะนำมาเขียนเล่าต่อได้เรื่อยๆไม่มีหมดผ่านคอลัมน์ ทันตสุขภาพเพื่อคนพิเศษนี้ นะคะ กลับมาคุยถึงพี่อุ้มกันต่อค่ะ ฉันรู้สึกประทับใจเธอจริงๆ จากการเยี่ยมบ้านพี่อุ้ม ฉันได้เรียนรู้มากมาย ดูช่างแตกต่างจากที่ฉันนั่งทางในแล้วคิดเอาเองอย่างยิ่ง ฉันรู้สึกดีมากๆกับการทำหน้าที่เพื่อนบ้านและญาติสนิทมิตรสหายของคนในชุมชนเดียวกัน ผ่านตำแหน่งที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า อสม. อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน คงเป็นไปไม่ได้เลยที่คนพิเศษในชุมชนจะไว้วางใจให้คนแปลกหน้าอย่างคุณหมอคุณพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหน้าตาแปลกๆทั้งหลายเข้าไปนั่งเล่น นั่งคุยถึงเรือนชานกันได้ง่ายๆ นอกจากมีคนรู้จักที่คนพิเศษรู้สึกสนิทใจนำไปก่อน และเชื่อมโยงเราชาวสาธารณสุขดุจเป็นมิตรใหม่อีกคนที่เสนอตัวเข้ามาทำความรู้จัก อีกเรื่องที่ฉันทึ่งคือท่าทีของพี่อุ้มหลังจากปราบความพยศของเจ้าแปรงสีฟันไฟฟ้าร้องได้สั่นได้สำเร็จ พี่อุ้มจับแปรงสีฟันที่กำลังสั่นอย่างมั่นคง และสามารถใช้แปรงสีฟันได้ด้วยท่าทีปกติธรรมดา และคุ้นเคยเป็นที่สุด ความรู้เก่าดั่งเดิมที่สะสมมาตั้งแต่ฉันเป็นนิสิต ฝังหัวทึบๆของฉันมาว่าคนพิเศษนั้นคู่ควรกับแปรงสีฟันพิเศษดังเช่นแปรงสีฟันไฟฟ้ามากกว่าแปรงสีฟันธรรมดาสามัญทั่วไป ซึ่งอาจจะไม่แน่ตามนั้นเสมอไปนะคะ เพราะคนพิเศษส่วนใหญ่ในชุมชนจริงๆ คงจะน้อยคนนักที่ได้รับการสุ่มเพื่อแจก Gift set ไฮโซและมีแปรงสีฟันไฟฟ้า พร้อมรีฟิลและถ่านอีก 4 ก้อน เช่นที่พี่อุ้มได้รับ นั่นสินะ ..แล้วก่อนหน้านี้พวกเค้าแปรงฟันอย่างไรกันหล่ะ พวกเค้าก็ต้องใช้แปรงสีฟันธรรมดาๆที่หาซื้อได้ในชุมชนและญาติๆร่วมทั้งเพื่อนบ้านคนในชุมชนช่วยกันสอนการใช้แปรงสีฟันเท่าที่ทำได้ เพื่อให้คนพิเศษเหล่านั้นสามารถดูแลตนเองเป็นพื้นฐานได้บ้างโดยที่ไม่เป็นภาระกับคนในครอบครัวและคนในชุมชนซึ่งต่างก็หาเช้ากินค่ำต้องทำงานกันทั้งนั้น แปรงสีฟันไฟฟ้าอาจไม่ใช่สิ่งวิเศษที่ช่วยให้คนพิเศษมีสุขภาพช่องปากดีขึ้น แต่ในความรู้สึกของฉัน การเยี่ยมบ้านในวันนี้แปรงสีฟันไฟฟ้าเปรียบเสมือนของขวัญชิ้นพิเศษที่หมอฟันจัดเตรียมให้อย่างตั้งใจ คล้ายดั่งเป็นสะพานเชื่อมกลุ่มคนพิเศษที่อยู่ตามบ้าน ให้เข้าใกล้ห้องฟัน ให้เข้าใกล้การดูแลรักษาฟัน เช่นเดียวกับคนอื่นๆในชุมชนมากขึ้นอีกสักนิด จริงอยู่ทีบางครั้งสิ่งที่เรานำไปให้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่พวกเค้าต้องการรับก็เป็นได้ แล้วอะไรคือสิ่งที่ใช่และเหมาะสมสำหรับทุกๆคน สำหรับคนพิเศษที่ต้องการการดูแลจากทันตบุคลากร และสำหรับทันตบุคลากรที่ต้องทำหน้าที่ดูแลทันตสุขภาพของทุกๆคนในชุมชน รวมทั้งคนพิเศษที่อาจไม่สะดวกในการเดินทาง มีข้อจำกัดหลายอย่าง แต่ก็ต้องการรับการดูแลจากทันตบุคลากรด้วยเช่นเดียวกัน ยังเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบและต้องการทีมงานมาช่วยกันหาคำตอบ ช่วยกันคิดรูปแบบกระบวนการพัฒนาเข้าถึงการบริการทันตสุขภาพของกลุ่มคนพิการ อย่างเหมาะสม เป็นไปได้และยั่งยืนด้วยความเท่าเทียมกันในฐานะเป็นประชาชนคนไทย ทันตบุคลากรท่านใดสนใจ โทร 083 – 4934543 ติดต่อพูดคุยกับหมออ๋อ บรรณาธิการวารสารทันตภูธร รับผิดชอบประเด็นส่งเสริมทันตสุขภาพในคนพิการทุกประเภท ของสถาบันสร้างเสริมสุขภาพคนพิการได้โดยตรงเลยนะคะ ข่าวแว่วดังๆว่าทีมงานวางแผนจะจัดพบปะพูดคุยเพื่อระดมสมองเป็นเบื้องต้น จะเริ่มงานประมาณกลางเดือนมกราคม ปี 2553 ผู้สนใจกรุณาติดต่อมาล่วงหน้าเพื่อดำเนินการทำหนังสือเชิญตามระเบียบราชการนะคะ ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ

0 ความคิดเห็น: