วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

กิจกรรมรับน้องทันตบุคลากรใหม่ วันที่ 20 – 21 มิถุนายน 2551



ณ. กองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4 ตำบลสี่ขีด อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช
ทพ.ธณัฏฐนนท์ อัศววัฒฑกี รพ.เทศบาลนครนครศรีธรรมราช
และ ทภ.ชุติมา พงศ์อำไพ สสจ.นครศรีธรรมราช........เก็บมาฝาก


ได้ฤกษ์ เปิดบ้านทันตบุคลากร จังหวัดนครศรีธรรมราช ดินแดนธรรมะ ปีนี้มีน้องใหม่ที่เข้ามาทำงานในจังหวัดนครศรีธรรมราชเยอะมาก 18 คน (ทันตแพทย์ 7คน ทันตาภิบาล 11คน) ซึ่งมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทีมงานรับน้องใหม่ปีนี้นำโดย ทพ.ธณัฏฐนนท์ อัศววัฒฑกี (หมอรอง) จาก รพ.เทศบาลนครนครศรีธรรมราช และ ทพญ.อวิกา พิมเสน (หมอหนิง )รพ.สิชล มีกิจกรรมโดยรวมเน้นเรื่องความรักความสามัคคีในกลุ่มพี่น้องร่วมวิชาชีพ ไม่มีความรุนแรง ไม่มีสีสเปรย์มาพ่นหลังอย่างที่มีข่าวกัน เรานำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ฝึกความอดทนในการผจญด้านต่างๆ ในค่ายทหาร กติกาคือถ้ามีน้องใหม่ร่วมกิจกรรมใด ขอให้พี่ที่มาจากโรงพยาบาลเดียวกันร่วมกิจกรรมด้วย แต่เกินคาดครับมีพี่ๆ สมัครใจเล่นกับเราหลายคน

งานเริ่มขึ้นที่เวลา 10 นาฬิกาเศษ ท่ามกลางแสงแดดจ้า ท้องฟ้าสดใส ของวันที่ 20 มิถุนายน 2551 ณ กองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4 อำเภอสิชล ทีมวิทยากรนำโดย ร้อยเอกประเสริฐ สายทองแท้ หัวหน้าหน่วยยุทธการ กองร้อยฝึกรบพิเศษที่ 4 และพี่ๆทหารใจดีอีก 7 คน พวกเราแบ่งกลุ่มพี่น้องโดยใช้ผ้าพันคอ สีม่วงเป็นน้องใหม่ ของพี่สีเหลือง แรกๆ พี่ทหารเขาก็เกรงๆ ว่าเป็นหมอกันทั้งนั้นจะเล่นอะไรดี แต่น้องและพี่ชาวทันตฯนครก็ทำให้เขาเห็นแล้วว่าหนูทำได้ ไม่มีมาด ไม่มีแสตนด์อิน เล่นกันจริง เล่นกันทุกคน ฐานแรกก็สนุกสนานด้วยกิจกรรมละลายพฤติกรรม โดย พี่ๆ ทหารมาเต้นแรงเต้นกา เห็นน้องหมอและพี่หมอหลายท่านในบทบาท ที่น่ารักน่าเอ็นดู กลับมาเป็นเด็กสมัยเรียนกันอีกครั้ง

ต่อจากนั้นก็เป็นการทดสอบสมาธิ ความกล้าหาญ ด้วยการยิงปืน M16 กิจกรรมนี้ไม่ได้เตรียมเพื่อไปออกสนามสามจังหวัดชายแดนนะครับ แต่เพื่อเป็นการฝึกสมาธิและการป้องกันตัว ก็ได้เห็นน้องๆ หลายคนเห็นหน้าตาสวยๆ ก็ยิงเข้าเป้าเต็มสิบคะแนนหลายคน แต่บางคนก็ใจดีทำฟันอย่างเดียวเรื่องปืนผาหน้าไม้ เป้าสะอาด ก็สร้างความสนุกสนานและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หาซื้อไม่ได้



หลังจากที่ผ่านเสียงดังๆ จนต้องหูอื้อไปตามๆกันเท่านั้นยังไม่พอ เรายังทดสอบความกล้าของน้องๆ ด้วยการกระโดดหอสูง 34 ฟุต ทดสอบกำลังใจและความกล้า โดยมีพี่ที่อายุมากๆ แล้วกระโดดเป็นแบบอย่าง ก็เห็นเงียบๆ กันหลายคนแต่โดดร่มกันเก่ง เสียงดีกันทุกคน ท่ามกลางสายฝน อีกทั้งบางคนยังขอกระโดดครั้งที่ 2 ให้แน่ใจว่าตัวเองกล้ากระโดดจริง ไม่ใช่ถูกผลักลงมา แม้ฝนฟ้าจะไม่อำนวย เสื้อผ้าเปียกชุ่มน้ำแต่ใจก็ยังสู้ เพราะสนุกมาก ประสบการณ์นี้มีการประดับปีกและ เกียรติบัตรรับรองความสามารถทุกคน

ถึงเวลาพักรับประทานอาหารบรรยากาศพี่กับน้องกินข้าวกล่องที่ค่ายทหาร และตอนบ่ายก็มีกิจกรรม walk rally มีทั้งหมด 4 ฐาน ใช้ธงลูกโป่งนำ ต้องรักษาธงลูกโป่ง เดินกันไปเป็นกลุ่มมีเชือกคล้องกันรวมกลุ่มกันไว้เดินยากลำบาก แต่หลายคนก็สนุก ฐานต่างๆ พี่ๆทหารเตรียมมาให้น่ารักมาก ไม่มีความรุนแรง และมีพี่ๆ ทันตบุคลากรค่อยป่วนอยู่ทุกฐาน ขโมยเจาะรูโป่ง แกล้งน้องเล็กน้อย พอสนุกสนาน บรรยากาศเป็นกันเอง และอบอุ่นมาก ทุกฐานวิทยากรสรุปให้ความรู้เรื่องการทำงานเป็นทีมและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

หลังจากผ่านฐานทั้งหมดแล้ว กิจกรรมสุดท้ายที่ทางผู้จัดได้ขอร้องให้พี่ทหารจัดให้คือการดำรงชีพในป่า การเลือกพืชผักมาเป็นอาหาร / การหาน้ำดื่มจากพืช / ฝึกการสังเกตการเลือกกินอาหารกลางป่าในภาวะคับขัน การเตรียมอาหาร โดยวิธีธรรมชาติ การหุงข้าวกับกระบอก ไม้ไผ่ ทั้งชนิดปิดจุก และเปิดกระบอกด้านข้าง สุดท้าย ทุกคนก็ได้เรียนรู้ว่าอะไรกินได้ กินไม่ได้ ได้เรียนรู้การก่อไฟในป่า และที่สำคัญได้ลองประกอบอาหารด้วยหม้อสนาม หุงข้าว ทำกับข้าวกันจริงๆ บางคนอาจไม่เคยทำเลย ก็ได้มาลองทำสนุกสนานพี่น้องร่วมกันทำและมีทหารคอยช่วยเหลือ แนะนำอย่างใกล้ชิด

กว่าจะปรุงอาหารเสร็จความมืดค่อยๆมาเยือน มีเสียงดนตรีจากแมลง ต้องเร่งมือ และนำอาหารที่ช่วยกันปรุงมาแลกเปลี่ยนกันกับกลุ่มอื่น ๆ และทุกคนกินอาหารที่ปรุงเองหมดทุกฐาน ซึ่งทันตบุคลากรทั้งรุ่นใหม่ และเก่า (เก๋า) ล้วนเข้าร่วมฝึกกันอย่างจริงจังทุกกิจกรรม ไม่เสแสร้ง แม้ทุกคนจะเหนื่อยล้า แต่ก็ใจสู้ เป็นที่ถูกใจของทีมวิทยากรยิ่งนัก แต่เวลาน้อย (มืดแล้ว) พิธีติดปีก และมอบเกียรติบัตร ต้องดำเนินการเร่งรีบ มีเพียง ทพ.ทวี จันทามงคล รพ.ทุ่งสง ได้เป็นตัวแทนรับมอบเพียงผู้เดียว




ณ ห้องอาหาร โรงแรมประสานสุขวิลล่า ชายหาดสิชล ในยามเย็นคับคั่งไปด้วยหมอฟันท่ามกลางสายฝนที่เย็นสบาย (ตั้งแต่ยามบ่าย จนกระทั่งเกือบหนึ่งทุ่ม) ความหิวก็มาเยือน พวกพี่ ๆ ที่มาเตรียมจัดบายศรีรับขวัญน้องใหม่ด้วยดอกไม้ที่สวยงาม และแสงเทียนที่สว่างไสวในยามค่ำ ในขณะที่น้องใหม่ทุกคน ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดชายหาดแล้ว ความเหนื่อยและอ่อนหล้า เริ่มจางไป แต่เมื่อถูกรุ่นพี่จับปิดตา ก็เกิดความกังวลอยู่ลึกๆ กว่าจะเดินจากห้องพักถึงห้องอาหารที่จัดเตรียมไว้รับขวัญรับน้องใหม่ ก็ 2 ทุ่ม พิธีกรรับเชิญคืนนี้ ได้แก่ หมอรอง และหมอเปิ้ล (ทพญ.สุภา เนตรจรัส ศูนย์อนามัยที่ 11) เป็นคู่ขวัญที่น่ารักมาก

พิธีรับขวัญน้องใหม่ก็เริ่มขึ้น ภายใต้เสียงเทียน น้องๆ เดินปิดตามา พบกับพี่ๆๆ ที่ล้อมรอบน้องมาพร้อมรับขวัญน้องอย่างตั้งใจ ด้วยการสวมมาลัยดอกไม้ จาก พี่ๆ อาวุโส ผูกข้อมือรับขวัญน้องใหม่ และอวยพรให้กำลังใจ ท่ามกลางเสียงเพลงที่ไพเราะและมีพิธีบายศรีสู่ขวัญอย่างง่ายๆ อบอุ่น และรับประทานอาหารร่วมกัน เอ๊ะ สงสัยทำไมกินจากค่ายไม่อิ่มเหรอ ไม่ใช่ไม่อิ่มหรอก แต่เหนื่อยมาก มีอะไรกิน ก็เลยกินอีก ต่อจากน้องก็เป็นเวทีกลางคืน แนะนำน้องๆ ประกวดโหวตน้องที่แนะนำตัวโดดเด่น และ มอบรางวัลจาก ทันตแพทย์ สสจ. โดยพี่ใหญ่(หมอตี้) และมีการแสดง เล่นเกมส์แจกรางวัลอีกมากมาย มีพี่ๆ แต่ละโรงพยาบาลเกือบทุกแห่งเข้ามาร่วมงานในวันนี้ เป็นการบ่งบอกถึงความรู้สึกของพวกเราจะได้ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข น้องใหม่หลายคนมีความสามารถเฉพาะตัวสูง ฉายแวว Dent star เต็มท้องฟ้าในคืนเดือนมืด อีกทั้งจัดกิจกรรม Entertain ได้ดี ทำให้งานคืนนี้สนุกสนานและเป็นกันเองอย่างแท้ (มีแต่พวกเราล้วนๆ) ต่อจากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน แต่เสียงกระชิบบอกว่าบางห้องก็ไม่ได้พักผ่อน กีฬาฝึกสมองประลองปัญญา ได้เริ่มขึ้นในยามดึกอย่างสนุกสนาน

วันรุ่งขึ้น น่าเสียดายกับหลายคนที่ตื่นสายไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าตรู่ บรรยากาศที่สะอาดและสวยงาม หลังอาหารเช้าพวกเรากลุ่มมีภารกิจที่ต้องกลับมาทำงาน แต่กิจกรรมรับน้องยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งน้องใหม่ก็ตามพี่ๆขึ้นรถบัสทหาร ไปร่วมทำบุญร่วมกันเพื่อให้น้องๆ ที่เข้ามาทำงานได้รับศิริมงคลในการทำงานได้พบแต่สิ่งดีๆ ก็ได้ไปถวายสังฆทานที่วัดวิเวกทายิการาม อำเภอสิชล พระอาจารย์ให้พร ทุกคนรับศีลอิ่มอกอิ่มใจกันไปตามๆ กันก่อนที่จะเดินทางไปศึกษาวิชาภูมิศาสตร์ และธรรมชาติที่สวยงาม ในอำเภอขนอม ซึ่งสมาชิกก็ลดน้อยลงไปบ้างเพราะพี่ๆ ต่างติดภาระงานกัน ก็ไม่เป็นไรยังเหลือ staff ที่น่ารัก เดินทางโดยรถทหารไปที่เขาวังทอง อ.ขนอม ได้เข้าไปชมถ้ำ หินงอกหินย้อย แหล่งท่องเที่ยวที่เราไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีด้วยหรือที่นครศรีธรรมราช ถ้ำเขาวังทอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่งดงามแห่งหนึ่ง ภายในถ้ำนอกจากจะเห็นหินงอกและหินย้อยทั่วๆไปแล้ว ยังพบหินก้อนใหญ่มีลายดอกกุหลาบชัดเจน เป็นจุดขายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชื่นชมได้มากทีเดียว อีกทั้งมีเด็กอายุ 7ขวบเป็นมัคคุเทศก์ นำทางในถ้ำมืดที่มืด โดนเด็กหลอก เด็กแกล้งกันไปตามๆ กัน ทำให้พวกเรารักเด็กกันยิ่งขึ้น



หลังที่เหนื่อยกันกับการชมถ้ำกว่า 1 ชั่วโมงเราก็ไปพักรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านกุ้งเผา อ่าวท้องเนียน บรรยากาศ สบายกินอาหารริมทะเล หาดทรายสีขาว พี่น้องเมาส์กันมันส์ สนุกสนาน เมาส์กันอิ่มกว่ากินข้าวเสียอีก (เอ๊ะ ! ยังไง) รับประทานอาหารเสร็จแล้วก็เข้าที่พักที่ อลงกตรีสอร์ท อ.ขนอม ให้น้องๆ พักผ่อนกันตามอัธยาศัย ( อ๊ะ ! เปลี่ยนที่พักอีกแล้ว) ได้เวลา 15.30 น. มาทำกิจกรรมชายหาด เริ่มด้วย บี้ลูกโป่งกันด้วยหลัง จับคู่กันแล้วบี้ แบ่งกันเป็นสองทีม น้องทันตาภิบาลสาวๆบี้แตกก่อนใครเพื่อน

หลังจากหมดไป 1 เกมส์ก็มาเล่นวิ่งกระสอบกันที่ริมทะเลทีมละ 7 คน วิ่งหมดก่อนชนะ เห็นหน้าตาเมืองๆ ก็เล่นแบบบ้านๆ กันได้ทุกคน น้องชายแมนมากวิ่งแทนป้าๆ ทีมเดียวกัน ต่อจากนั้น ก็เล่นกิจกรรมลิงชิงบอลฝึกความว่องไวและความสามัคคี เล่นเอา พี่มุท และพี่รองหอบกันใหญ่ เนื่องจากแก่แล้ว แต่ก็สนุกสนาน กันมาก หลังจากที่วิ่งเหนื่อยแล้ว ก็เปลี่ยนมาเล่นวอลเลย์บอลชายหาดทีมละ 7 คน กติกาใครใคร่อยากเสิร์ฟ ก็เสิร์ฟ อยากตีก็ตีเล่น เกมส์ 21 เห็น พี่ๆ สสจ.เล่นเก่งกันทุกคนเลยครับ เมื่อเหนื่อยกันมากก็ลงน้ำเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน แล้วแยกย้ายกันไปอาบน้ำ แล้วมาทานข้าวริมทะเล เสร็จแล้วก็นั่งเรือไปชมหิ่งห้อย แต่ไม่ค่อยเห็น เพราะฝนตก(อีกแล้ว) และกลับมาเราก็ให้น้องๆ พักผ่อนกันตามอัธยาศัย

สรุปกิจกรรมที่ทำมาทั้งหมด เน้นความสามัคคีเชิงสร้างสรรค์ ไม่มีความรุนแรง กิจกรรมที่ทำร่วมกันระหว่างพี่กับน้องเพราะเราเชื่อว่ากิจกรรมอะไรก็ได้ ที่สามารถเชื่อมความสัมพันธ์ได้ทั้งสิ้น จากการประเมินน้องๆ ก็มีความพึงพอใจ ได้รับประโยชน์ไม่เครียดและไม่รู้สึกกดดัน และไม่รู้สึกว่าถูกกระทำรุนแรง ทุกคนเต็มใจเข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่บังคับ ทำให้พี่น้องสนิทสนมกัน พูดคุยกันมากขึ้น น่าจะร่วมกันทำงานได้อย่างมีความสุข เป็นประโยชน์ระยะใกล้ที่เห็นได้….


0 ความคิดเห็น: