วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เรื่องเล่าจากภูอังลัง : ... บันทึก 2 วัน ..ตามล่า... หมอฟันปลอม เถื่อน !!






โดย หมอฟันไทด่าน

17 มกราคม 2550



9 โมงกว่าๆ ลงจากศูนย์บริหารคุณภาพกลับไปที่ฝ่าย ทันตฯ พี่หนุ่ย พี่ทันตาบอกว่ามีคนมารอรื้อฟันปลอมหมอเถื่อน เพิ่งใส่ได้ 2 วัน บ้านอยู่ในเขตเทศบาลนี่เอง พี่หนุ่ยบอกว่าเป็นแม่ครูโอ๋ ครูโอ๋สอนอยู่ปากแดง เป็นครูอนามัยด้วย


10 โมงกว่าๆ คุณหมอพจน์รื้อฟันปลอมให้แม่ครูโอ๋ แอบไปชะโงกดู เห็นฉีดยาชาและใช้หัวกรอไปหลายชนิด คุณหมอพจน์บอกว่ายากมาก รื้ออยู่ตั้งเกือบชั่วโมง ใช้ลวดเส้นเล็กๆพันรอบตัวฟันหลายรอบ เทคนิคนี้ยังไม่เคยเห็นมาก่อน ถามแม่ครูโอ๋ บอกว่าครูยม ครูโรงเรียนบ้านนาดีเป็นนายหน้าพามา โดยโฆษณาว่าทำแล้วดี พวกตำรวจยังทำกันตั้งหลายคน หมอที่ทำน่าจะเป็นคนจีน พูดไทยได้ 2-3 คำ ใส่ 17 ซี่เสียเงินไป 8,500 แน่ะ ก่อนมาโรงพยาบาลเจ็บปวดระบมไปทั้งปาก เคี้ยวข้าวไม่ได้เลย

บ่าย 2 กว่าๆ นั่งเขียนสคริปต์ ตั้งใจไปประชาสัมพันธ์วิทยุชุมชน เพราะหมอเถื่อนน่าจะยังระบาดอยู่แถวๆนี้ ที่การกระจายเสียงวิทยุยังรับฟังได้ ก่อนคนด่านซ้ายจะถูกหลอกมากกว่านี้

บ่าย 3 พอดี สคริปต์เสร็จ เขียนจั่วหัวไว้ว่า ข่าวสำคัญ ฝากประชาสัมพันธ์ทุกรายการ คิดว่าอาจต้องส่งให้วิทยุแห่งประเทศไทยที่มีอยู่ที่อำเภออีกแห่ง ซึ่งกระจายเสียงได้กว้างขวางกว่า อาจให้ผอ.ที่จัดทุกเช้าวันเสาร์ ที่ถ่ายทอดเสียงผ่านหอกระจายข่าวทุกหมู่บ้านด้วย แต่รอถึงวันเสาร์จะช้าไปไหมเนี่ย

บ่าย 3 กว่าๆ มีโทรศัพท์สายนอกเข้ามา บอกว่ามีหมอเถื่อนมาทำฟันที่โรงเรียน ตอนนี้กำลังทำให้ผอ.รร.อยู่ สอบถามอ้อนวอนอย่างไรก็ไม่ยอมบอกชื่อโรงเรียน บอกแต่ว่าโซนบ้านใต้ ซึ่งมีโรงเรียนตั้งกว่า 20 โรง คงไปสุ่มหาไม่ไหว ครูแกพูดเหมือนพ่อแกเคยโดนหลอก ตอนหลังก็ต้องมารื้อที่โรงพยาบาลเหมือนกัน น้ำเสียงสนิทสนมมากน่าจะเป็นครูอนามัย เดาว่าที่ไม่ยอมบอกคงกลัวผิดใจกับครูที่เป็นนายหน้า ซึ่งอยู่โรงเรียนโซนเดียวกัน วางสายแล้วพี่หนุ่ยโทรมาบอกว่ามีคนมารื้อฟันปลอมอีก ใส่ 5ซี่ 2,000 บาท แต่เป็นหมู่บ้านอีกโซนหนึ่ง เลยวิเคราะห์กันว่าน่าจะมีมากกว่า 1ทีม คนไข้จำทะเบียนรถได้ด้วย รถที่พาไปเป็น ISUZU DMAX ทะเบียน 1441 แถมบอกอีกว่าหมอเถื่อนน่าจะพักที่เย็นสุข รีสอร์ทใกล้ๆโรงพยาบาล

บ่าย 3 ครึ่ง ส่งสคริปต์ให้พี่โด้ หัวหน้าฝ่ายแผน ทีมงานคนสำคัญของวิทยุชุมชน แกบอกต้องรีบไป รายการท้าวบัวบาน ที่ออกอากาศอยู่ตอนนี้ เปิดเพลงลูกทุ่งหมอลำคนฟังเยอะ พี่โด้หายไปแป๊บเดียวก็มีเสียงประกาศออกวิทยุชุมชน ที่รับฟังได้ทางเสียงตามสายในโรงพยาบาลที่ถ่ายทอดสัญญาณมาอีกที โทรหาพี่อ้อยสสจ.เลย ปรึกษาเรื่องวิธีจับกุมดำเนินคดี พี่อ้อยให้โทรหาพี่ปุ๋ยที่เคยอยู่ที่นี่ ตอนนี้ย้ายไปอยู่ศูนย์อนามัยของเขตที่พิษณุโลก โทรหาพี่ปุ๋ย พี่ปุ๋ยให้ข้อมูลเยอะทีเดียว พี่ปุ๋ยให้เบอร์มือถือพี่สมชายที่เป็นกรรมการทันตแพทยสภา ด้วย พี่ปุ๋ยบอกว่าพี่สมชายมีประสบการณ์เรื่องนี้มามาก

4 โมง 50 นาที ขับรถพาน้องนักศึกษาทันตแพทย์เชียงใหม่ที่มาฝึกงานไปสถานีวิทยุ ก่อนรายการเริ่มคุยกับน้องอีกครั้งว่าให้น้องเป็นคนชงคำถาม พี่เป็นคนตอบ คุยเรื่องฟันปลอมทั่วๆไปก่อน แล้วค่อยไปจบที่ฟันปลอมหมอเถื่อน ผมแจ้งเบอร์มือถือออกอากาศไปด้วย เผื่อมีคนรู้เบาะแสจะได้แจ้งข่าวได้ น้องถามตอนขับรถออกมาจากสถานีแล้วว่าพี่มาจัดบ่อยไหม น้องไม่รู้หรอกว่า พี่ก็เพิ่งมาจัดครั้งแรกเหมือนน้องนั่นแหล่ะ


18 มกราคม 2550

7 โมงครึ่ง ตามน้องนักศึกษาฝึกงานไปออกหมู่บ้าน วันนี้เป็นวันพระใหญ่ 15 ค่ำ มีคนมารวมตัวกันที่วัดมาก เต็มศาลาทีเดียว ผู้ใหญ่บ้านก็มากันทั้ง 2 หมู่บ้านที่ศรัทธาวัดแห่งนี้

9 โมงตรง นั่งกินข้าวอยู่กับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน พี่หนุ่ยโทรเข้ามือถือ บอกว่าคุณลุง ด.โด่ง ดีเจคนดังอีกคนแห่งวิทยุชุมชนคนด่านซ้าย โทรมาหาผมที่โรงพยาบาล จะแจ้งเรื่องฟันปลอมหมอเถื่อน เลยรีบขับรถกลับจากหมู่บ้าน ระหว่างทางโทรปรึกษาพี่สมชายที่ทันตแพทยสภา กลับถึงโรงพยาบาลโทรหาพี่อ้อย (น้องสาวพี่ทันตา) ที่ทำงานเทศบาล ถามเบอร์ลุงด.โด่ง ทราบว่าแกอยู่แถวเทศบาล พี่อ้อยบอกว่าแกไม่มีมือถือ จะหาตัวให้แล้วให้แกโทรกลับ พักใหญ่ๆลุงด.โด่งโทรมา แกบอกให้ติดต่อตำรวจให้ไปจับหมอเถื่อน แกรู้มาว่าพักที่เย็นสุข ข้อมูลเดียวกันกับ ที่ได้รับจากคนไข้เมื่อวาน บอกเบอร์ห้องด้วย แกว่าได้ข้อมูลจากตำรวจชื่อดาบสุพจน์ มีคนมาชวนแกไปทำฟันปลอม แต่ฟังวิทยุเมื่อวาน (ไม่น่าเชื่อ ได้ผลแฮะ)เลยแจ้งข่าวให้ลุง ด. โด่ง วันนี้ผอ.ไปอยู่ไปประชุมกรุงเทพ เลยไปชวนพี่โด้ พี่โด้งงๆแต่ก็ยอมมาด้วย พี่โด้ประสานไปที่สสอ.ให้ช่วยคนข้อมูลกฎหมาย ว่ามีความผิดตามพรบ.อะไร จริงๆเภสัชรพ.ก็รู้แต่อยู่กันแค่ 2 คน คนไข้เยอะมากจึงไม่อยากกวน

10 โมงเช้า ไปถึงสสอ.กับพี่โด้ พี่อ๊อก กำลังค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตอยู่ หาพรบ. ได้แล้วพิมพ์ออกมาแวะไปรับพี่บุญเทิน ที่บ้านพักพี่บุญเทินอยากไปด้วย แกเป็นเป็นสาธารณสุขอำเภอ เพิ่งย้ายมาด่านซ้ายไม่นาน แกบอกว่าแกชอบจับหมอเถื่อนหลายประเภท เคยถึงขั้นปลอมตัวไปเป็นคนไข้ก่อนเข้าจับก็ทำมาแล้ว

10 โมงครึ่ง ถึงโรงพัก จ่าแก่กำลังกำลังง่วนยุ่งๆ อยู่กับการรับแจ้งความ คนรอเต็มชั้นล่าง พี่บุญเทินชวนเดินขึ้นชั้นบน ไปหาผู้กำกับ พบผู้กำกับกำลังอ่านหนังสือพิมพ์เดลินิวส์อยู่ จึงคุยกันพอเข้าใจ หลังจากนั้น....

11 โมง รถสายตรวจกับรถผมถึงที่พักเย็นสุข ไปที่ห้องเลขที่ 24 พบชายอายุราว 30 ปีกว่าๆหน้าตาคล้ายคนจีน 2 คน มีกระเป๋าเสื้อผ้าแพ๊คเรียบร้อย 2-3 ใบ เหมือนเตรียมพร้อมเดินทาง ตำรวจขอดูของในกระเป๋า ค้นจน พบทั้งฟันปลอมที่ทำเสร็จแล้ว ซี่ฟันปลอมในกล่องพลาสติก ขวดใส่ monomer ลวดเส้นเล็กๆเป็นขด ลักษณะเดียวกับที่รื้อได้จากฟันปลอมแม่ครูโอ๋ ขอดูพาสปอร์ต พบว่าเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่มาจากเซี่ยงไฮ้ มีวีซ่าเข้าเมืองถูกต้องเป็นนักท่องเที่ยว ตำรวจเลยขอเชิญตัวทั้งคู่มาโรงพัก



11 โมงครึ่ง ตำรวจบอกให้รอรองผู้กำกับที่ไปทำเรื่องรถชนกันที่ บ้านนาทอง คุยกับรองสารวัตรที่ไปโรงแรมมาด้วยกันบอกว่าแม้เรามั่นใจว่าเขาทำจริงๆ แต่เราไม่ได้เจอตอนเขากำลังทำอยู่ก็เอาผิดเขาไม่ได้ ซึ่งอันนี้ผมรู้อยู่แล้ว ว่าต้องไปหาเจ้าทุกข์มาแจ้งความ หลังปรึกษากัน เลยให้พี่โด้ไปรับแม่ครูโอ๋มา

เกือบๆเที่ยง แม่ครูโอ๋ยอมมาแต่ทำหน้างงๆ หลังให้ดูผู้ต้องสงสัยเป็นหมอเถื่อน 2 คน แม่แกบอกว่าใช่คนที่ใส่เสื้อสีขาว 1 ในนั้นที่ทำฟันปลอมให้แก ผม ตำรวจหลายคนรวมทั้งผู้กำกับ ช่วยกันกล่อม ให้เป็นเจ้าทุกข์แจ้งความ จะได้เอาผิดได้ คุยกันตั้งนานจนแม่แกยอม บอกว่าจะอำนวยความสะดวกทุกอย่างในการขึ้นศาล ไม่รถโรงพยาบาลก็คงเป็นรถโรงพักจะพาไป ไม่ต้องเดือดร้อนนั่งรถไปเอง

ผมบอกว่าถ้าแกยอม จะทำฟันปลอมให้ใหม่ฟรีๆ (แม่แกใช้สิทธิเบิกได้ ทำฟันปลอมต้องเสียตังค์เอง)เที่ยงครึ่งรองผู้กำกับไม่มาเสียที ผมกลับมาค้นหาข้อมูลเรื่องพรบ.เพิ่มที่รพ. จะดูว่าพรบ.การประกอบโรคศิลปะกับพรบ.วิชาชีพทันตกรรม สามารถใช้ด้วยกันได้ไหม โทษอันไหนหนักกว่า แล้วถ้าใช้ร่วมกันจะเพิ่มโทษได้หรือไม่ ติดต่อ พี่สมชายไม่ได้(ทราบทีหลังว่ามือถือพี่แกแบตหมด)



โทรสายตรงเข้าทันตแพทยสภา ได้ข้อมูลเรื่องมาตราที่จะเอาผิดหมอเถื่อน แม่ครูโอ๋เอานามบัตรของหมอที่ทำฟันปลอมมาให้ พี่โด้ลองโทรไปแกล้งมั่วว่า แม่ที่ใส่ฟันปลอมไปที่ด่านซ้ายมีปัญหามาแก้ให้หน่อย คนที่รับ พูดไทยได้แต่ไม่ชัด บอกว่า วันเสาร์จะกลับไปทำให้ เลยคิดว่าหมอเถื่อนน่าจะมาเป็นกระบวนการมีกันหลายคน กระจายลงหลายๆอำเภอทั้งจังหวัด

บ่ายโมงครึ่ง รองผู้กำกับยังไม่มา เลยชวนพี่โด้ไปกินข้าว ชวนแม่ครูโอ๋มาด้วย แกไม่ยอมมาบอกจะรออยู่แถวๆนั้น

บ่าย 2 กินข้าวยังไม่ทันเสร็จ ตำรวจผู้น้อยโทรมาตาม บอกว่ารองผู้กำกับกลับมาแล้ว ถึงโรงพักคุยกัน แม่ครูโอ๋มีท่าทีเปลี่ยนไป สงสัยได้ไปคุยกับใครบางคนแล้วเปลี่ยนใจ เดาว่าน่าจะคุยกับลูกเขยซึ่งเป็นตำรวจ คงบอกไม่ต้องไปยุ่ง ตามคาดแม่ครูโอ๋เปลี่ยนใจ ชั่วเวลาข้าวกลางวัน 1 มื้อ บอกว่าตอนนั้นมันมืด จำหน้าได้ไม่ชัด ถามลูกเขย ซึ่งจริงๆ อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วย ก็บอกว่าจำหน้าไม่ได้ สรุปว่าคงทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีเจ้าทุกข์ รองผู้กำกับบอกว่าจะจัดการให้ต่อ เป็นหน้าที่ของตำรวจแล้วกัน ฟังดูก็แค่ผลักดันให้ออกนอกพื้นที่โดยการส่งขึ้นรถ

บ่าย 2 กว่าๆ กำลังจะออกรถจากโรงพัก น้องเภสัช หน่อย งานคุ้มครองผู้บริโภคที่สสจ. โทรมาถามเรื่องนี้บอกว่าให้ช่วยอะไรก็บอก แพทย์ใหญ่ (นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย) โทรเข้ามือถือ(เป็นครั้งแรกในชีวิต) ถามเรื่องนี้อีก บอกทราบจากพี่บุญเทิน ที่ตอนเช้าอยู่ด้วยกัน แต่ตอนบ่ายเข้าไปประชุมที่จังหวัด เลยเล่าให้แพทย์ใหญ่ฟังไปว่าเอาผิดไม่ได้ แพทย์ใหญ่ขอคุยกับผู้กำกับ แต่อย่างไรก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี

บ่าย 2 ครึ่ง เดินออกมาจากโรงพัก มีใครไม่รู้โทรเข้ามือถือ บอกว่าทราบเบอร์หมอ โดยจดไว้จากรายการวิทยุเมื่อวาน ตอนนี้ที่อำเภอภูเรือ อำเภอติดกัน มีการตั้งคลินิกฟันปลอมหมอเถื่อนกลางตลาด คนกำลังเข้าแถวรอใส่หลายคน โทรหาหน่อง หมอฟันภูเรือ หน่องกลับบ้านที่โคราช โทรหามล มลบอกประชุมคปสอ.อยู่ เลยบอกว่าดีแล้ว อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาให้ยกโขยงกันไปจับ เดินกลับไปหาผู้กำกับ บอกว่าให้ประสานตำรวจภูเรือไปจับด้วย

บ่าย 3 กว่าๆ มลโทร กลับมา บอกจับมาแล้วอยู่โรงพักภูเรือ ตำรวจถามว่าจะให้จับเขาข้อหาอะไร........??ข้อมูลหลังจากนั้นอีกไม่กี่วันต่อมา ผอ.รร.แห่งหนึ่งโซนบ้านใต้ก็มารื้อฟันปลอมหมอเถื่อนกับคุณหมอโจ คนไข้มารื้อฟันปลอมแล้วที่ด่านซ้าย ตอนนี้มากกว่า 10 ราย สอบถามว่ามีทั้งหมอไทยหมอจีน หมอเถื่อนชาวจีนที่จับที่ภูเรือ ถูกขังอยู่ 2-3 วันแล้วขึ้นศาล ศาลสั่งปรับแล้วปล่อยตัวไป


พรบ.ที่ใช้ได้ในการจับหมอฟันปลอมเถื่อน

1. พรบ.การประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 มาตรา 30 ห้ามมิให้ผู้ใดทำการประกอบโรคศิลปะ หรือกระทำด้วยประการใดๆให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิทำการประกอบโรคศิลปะโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตฯ ฝ่าฝืนลงโทษตามมาตรา 47 ต้องระวางจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

2. พรบ.วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ.2537 มาตรา 28 ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม ทำการประกอบวิชาชีพทันตกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าวโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตฯ ฝ่าฝืนลงโทษตามมาตรา 50 ต้องระวางจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

0 ความคิดเห็น: