
โดย อ.ทพ. สุธี สุขสุเดช
ใครที่ชอบพูดว่าอาหารหลักของคนอีสานคือ ส้มตำกับไก่ย่างนั้น ผมยืนยันว่าไม่จริงครับ อย่างน้อยก็ไม่จริงสำหรับคนในเขตที่ผมมารวบรวมข้อมูลวิจัย (เขตอำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร) ครับ อาหารหลักของเขาคือ ผักกับปลา ผักที่เก็บได้จากสวน, ปลาที่ไปจับมาได้จากในบ่อ, หนอง เมื่อได้อาหารหลักสองอย่างนี้แล้วก็ค่อยมาคิดต่อว่าจะมาทำกินกับข้าวเหนียวอย่างไร ผักจะลวก หรือจะต้ม หรือกินสด ปลาจะแกงหรือจะตำใส่น้ำพริกสำหรับจิ้มกับข้าวเหนียว หรือจะนึ่ง จะสังเกตได้ว่าอาหารที่พวกเขาทำนั้น แทบจะไม่มีการทอดหรือผัดซึ่งเป็นการปรุงที่ต้องใช้น้ำมันเลย มองในแง่สุขภาพแล้วมันเป็นอาหารที่ดีต่อร่างกายมากๆครับ ได้ผักกับปลา ปรุงแบบไม่ใช้น้ำมัน เวลากินก็ปั้นข้าวเหนียวจิ้มกับน้ำพริก แล้วกินผักตาม
เบื่อกินปลาแล้วก็ยังมีแหล่งโปรตีนที่มีอยู่มากหลายตามธรรมชาติสำหรับจะป่นหรือคั่วกิน นั้นคือแมลงครับ ที่นิยมกินแมลงไม่ใช่เป็นเพราะอดอยาก หรือไม่มีสตางค์มาซื้อไก่ หมู หรือเนื้อวัวกันนะครับ เพราะทั้งไก่ ทั้งหมู และวัว ชาวบ้านก็เลี้ยงเป็นสิบเป็นร้อยตัวอยู่ในพื้นที่เกษตรของพวกเขานั้นเอง แต่เหตุที่เนื้อสัตว์ทั้งสามประเภทนี้ไม่ได้อยู่ในเมนูอาหารทุกมื้อของพวกเขาก็เพราะว่าวิธีคิดของเขาต่างจากคนในเมืองมากกว่าครับวัฒนธรรมในการกินนั้นผมมองว่ามันมีวิธีคิดในเรื่องการดำรงชีวิตเจืออยู่ด้วย การฆ่าไก่เพื่อกินกันสักตัวนั้น มักจะกินกันในโอกาสการต้อนรับหรือการอำลา นอกจากนี้ยังเป็นอาหารสำหรับการบูชาผี (ทำนองเดียวกับไก่ตรุษจีน) การฆ่าไก่เพื่อกินเล่นนั้นก็มีบ้างแต่ก็ไม่บ่อยจนอยู่ในอาหารทุกมื้อครับ การกินหมูกับวัวนั้น หากได้มีโอกาสเข้าไปตลาดนานๆครั้ง ก็อาจจะซื้อกินบ้าง แต่วาระของการกินหมูกับวัวจริงๆ จังๆ ถึงขั้นที่จะฆ่ากินนั้นมักจะเป็นงานบุญประเพณีที่ใหญ่มาก เพราะล้มหมูตัวหนึ่งก็เพื่อจะเลี้ยงแขกในจำนวนเป็นหลายสิบคน ส่วนการล้มวัวนั้นหมายถึงการเลี้ยงแขกในงานบุญจำนวนใกล้ร้อย
ผมในฐานะผู้โปรดปรานเนื้อวัว และกินหมู ไก่ ปลา คละเคล้ากันไปทุกมื้อนั้น เมื่อได้มาเรียนรู้วิธีคิดแบบนี้แล้วก็พบว่า ชาวบ้านที่ผมไปอยู่ด้วย คนที่กินปลา กินแมลง เขาไม่ได้อดอยาก ไม่มีอะไรกินถึงกับต้องกินแมลง ตรงกันข้าม เขาอยู่ในพื้นที่ที่มีความสมบูรณ์และหลากหลายของอาหารโปรตีน ไม่ใช่เพียงแค่ ปลา หมู ไก่ และเนื้อวัว นอกจากนี้ หากมองในแง่กายภาพ แมลงเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี สะอาดและหลากหลายเปลี่ยนไปตามฤดูกาล กินแมลงก็จะได้โปรตีนโดยไม่ต้องได้รับฮอร์โมน หรือยาปฏิชีวนะที่ปนเปื้อนมากับเนื้อหมู ไก่ และวัว ยิ่งมองในแง่จิตใจ ผมว่าพวกเขามองไก่ หมู วัวเป็นสิ่งมีชีวิตเป็นตัวๆ ไม่ได้มองเห็นเป็นชิ้นเนื้อที่แปรรูปให้น่ากินแล้ว แบบที่เราเห็นอยู่ในจาน การพรากชีวิตสัตว์ใหญ่ที่มีชีวิตอยู่ในความดูแลของพวกเขา จึงต้องทำด้วยความมีเหตุผล ไม่ใช่เพียงเพื่อกินเล่นเท่านั้น
ในแง่นี้ผมจึงมองว่าในการกินแมลงก็สะท้อนอารยธรรมของผู้กินครับ การกินแมลง, กินตามฤดูกาล, กินอาหารตามธรรมชาติ สะท้อนถึงวิธีคิดที่ลดการเบียดเบียน และการอยู่แบบสอดคล้องกับธรรมชาติ ขณะเดียวกันผมก็มองว่าวิธีคิดแบบบริโภคนิยมที่ ระบบอุตสาหกรรมอาหารจะต้องเตรียมของจนล้นเกินและเหลือทิ้ง เพื่อจะเอาใจผู้บริโภคให้มี หมู ไก่ เนื้อกินตลอดเวลาที่อยากกิน อย่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองแบบนี้ ช่างป่าเถื่อนและไม่เคารพต่อสิ่งมีชีวิตเอาเสียเลย
ผมจึงเปลี่ยนความคิดต่อชาวบ้านเรื่องการกินโดยสิ้นเชิง การกินแมลงนั้นไม่ได้หมายความว่าอดอยากและไม่มีอะไรกิน แต่หมายความตรงกันข้าม คือมีอะไรๆ ให้กินมากมายในธรรมชาติอันอุดม หลากหลาย ปลอดสารเคมีและสารพิษ รวมถึงการสะท้อนสภาพจิตใจที่พยายามลดการเบียดเบียนสัตว์ใหญ่ เรื่องแบบนี้มันสะท้อนถึงความมีอารยธรรมครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น