วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

บันทึกการเดินทาง...ชมรมทันตภูธร ตอน แผนที่การเดินทาง



จาก...ความทรงจำของเต้าหู้


ห้องสีขาวรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าปรากฏขึ้นตรงหน้า ส่วนด้านหลังเป็นหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่มองเห็นรถบนถนนที่มีขนาดเล็กกว่าฝ่ามือ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้มีโอกาสอยู่บนตึกสูงเช่นนี้ “ เต้าหู้ ” คือชื่อของฉัน เพื่อนสนิทของฉันเป็นคนตั้งให้เอง และก็เพราะไอ้เพื่อนคนนี้แหละ ที่ทำให้ฉันต้องมานั่งอยู่ที่นี่โดยแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคนกลุ่มนี้ ฉันจำใจต้องมาด้วยเพราะเพื่อนของฉันขอร้องให้มาช่วยจดจำเรื่องราวการเดินทางของคนกลุ่มหนึ่ง กลุ่มคนที่มาจากต่างพื้นที่ ต่างเพศ ต่างวัย ต่างความคิด แต่กลับมารวมตัวกันได้ด้วย... ...ได้ด้วยอะไรสักอย่างที่ฉันไม่เข้าใจ รู้เพียงว่ามันไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุผล

ดูเหมือนว่าการรวมตัวกันครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรก และไม่ใช่คนกลุ่มแรกด้วย การเกิดขึ้นของสิ่งที่เรียกว่า “ชมรมทันตภูธร” เริ่มต้นขึ้นเมื่อพ.ศ.2522 โดยกลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า ทันตแพทย์ ได้ยินเค้าเล่ากันว่า ในสมัยแรกๆ นั้น ทันตแพทย์ที่เข้ามาทำงานในโรงพยาบาลชุมชนจะมีปัญหาในเรื่องการทำงาน จึงเกิดการรวมกลุ่มเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หลังจากนั้นชมรมทันตภูธร ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น ชมรมทันตสาธารณสุขภูธรในเวลาต่อมา ได้มีการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และอุดมการณ์ ผ่านมาสู่ทันตแพทย์จากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั่งปัจจุบัน...

“เราควรวางโครงสร้างชมรมให้มีสองฝ่ายหลักๆ คือ ฝ่ายสมอง และฝ่ายท้อง” เสียงทันตแพทย์ผู้หญิงท่าทางมาดมั่นคนหนึ่งพูดขึ้น เพื่อเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างชมรม มีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้การทำงานของชมรมเป็นระบบและคล่องตัวขึ้น ฉันคิดว่า หน้าตาใหม่ของชมรม จะว่าไปแล้วก็ไม่ต่างไปจากกิ้งกือสักเท่าไรนัก หัวของกิ้งกือเป็นประธานชมรม มีหน้าที่นำทีม เป็นส่วนหนึ่งของลำตัว มีขาข้างซ้ายเป็นผู้ควบคุมสมอง ขาข้างขวาไว้ควบคุมปากท้องของชมรม ขาทั้ง 2 ข้าง ต้องทำงานประสานกันได้อย่างดี เพื่อที่ตัวกิ้งกือจะได้ค่อยๆ เดินอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

เมื่อได้โครงสร้างแล้ว พวกเขาก็คุยกันต่อ ถึงเรื่องการกำหนดหน้าที่ของขากิ้งกือแต่ละขาและการจัดสรรหน้าที่ประจำขา จนกระทั่งคุยกันเรื่องโครงการที่จะเดินทางต่อไปในปี 2552 โครงการที่ฉันฟังดูแล้วรู้สึกสนุก สบายๆ ก็มี โครงการค่ายสำหรับน้องทันตแพทย์ที่จบใหม่ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 1-3 สิงหาคม 2551 หลังจากนั้นจะมีการลงไปเยี่ยมน้องถึงที่ทำงานหรือโทรศัพท์สอบถาม พูดคุยเพื่อเป็นที่ปรึกษาในด้านการทำงานความเป็นอยู่และให้กำลังใจน้องๆ ทันตแพทย์จบใหม่ที่น่ารัก


ส่วนทันตแพทย์ที่จบนานแล้วก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะเค้าวางแผนไว้ว่าจะจัดให้มีค่ายสำหรับพี่ทันตแพทย์ (ที่น่ารักกว่า) ด้วย มีการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกด้วยรูปแบบที่หลากหลาย เท่าที่คิดกันออกตอนนี้ คือ การบำเพ็ญประโยชน์โดยการออกหน่วยทันตกรรมร่วมกัน รวมทั้งมีแผนจะการพัฒนาทีมทันตบุคลากรที่จะมาช่วยสานต่องานชมรมโดยการอบรมภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีม

ส่วนเรื่องที่ฉันฟังดูแล้วซีเรียส แต่คิดว่าจำเป็นสำหรับความมั่นคงของวิชาชีพนั่นคือ ฝ่ายวิชาการก็มีแผนที่จะทำวิจัยในเรื่องระบบทันตสาธารณสุขระดับปฐมภูมิ ความก้าวหน้าของวิชาชีพ และด้านกำลังคนของทันตบุคลากรสำหรับทันตแพทย์ที่ทำงานชุมชนคงจะมีปัญหาหลากหลายรวมไปถึงประสบการณ์การทำงานที่อาจยังไม่เพียงพอ พวกเขาจึงมีความคิดว่า ควรจะจัดให้มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานในชุมชน พร้อมจัดทำคู่มือสำหรับทำงานชุมชน จะได้อุ่นใจขึ้นสำหรับน้องทันตแพทย์ที่ต้องลงไปสัมผัสกับพื้นที่กับงานที่ไม่คุ้นเคย
เรื่องราวการเดินทางของชมรมและประสบการณ์ดีๆ จากทันตแพทย์คนหนึ่งจะมีการส่งผ่านไปถึงคนอื่นๆ ได้ ต้องอาศัยหนวดกิ้งกือ หรือสื่อเรดาร์ หมายถึงการสื่อสารผ่านทางวารสารทันตภูธร และเวบไซต์ของชมรมทันตภูธร ซึ่งทันตแพทย์และผู้ที่สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นหรือส่งมอบเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ผ่านทางสื่อเหล่านี้ได้…

วันนี้...ฉันนั่งฟังพวกเขาอย่างเดียวโดยไม่ได้ลุกเดินไปไหนเลย แต่กลับรู้สึกว่าเหนื่อย นั่นก็เพราะแผนที่ ที่จะเดินทางต่อนั้น ทั้งยาวไกลและยากลำบากเหลือเกิน ทำไมการรวมตัวกันของทั้งทันตแพทย์ทั้งภาครัฐและเอกชน จึงสามารถมาช่วยกันทำงานเพื่อส่วนรวมและวิชาชีพได้ โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตัว ?ทำไมคนถึงกระตือรือร้นทำงานที่ไม่ได้ค่าตอบแทน ?และทำไมต้องเพิ่มภาระงานให้กับตัวเองทั้งๆ ที่งานประจำก็เต็มมืออยู่แล้ว ?
คำถามหลายคำถามผุดขึ้นมาในแผ่นสมองของฉันเรื่อยๆ แต่ไม่สามารถค้นหาคำตอบออกมาได้ เพียงแค่เฝ้าดูและจดจำเรื่องราวที่พวกเขาจะเดินทางในวันนี้และต่อไปในวันข้างหน้า ได้แต่หวังว่าฉันจะสามารถค้นหาคำตอบได้เอง...สักวันหนึ่งเพื่อนของฉันเลื่อนลูกศรมากดที่ปุ่ม start บริเวณมุมด้านซ้ายล่างของใบหน้า แล้วต่อมาที่ข้อความ shut down ฉันเริ่มรู้สึกง่วงขึ้นทีละน้อยและค่อยๆหลับตาลง
“ แล้วพบกันใหม่นะ...................................................... .... .... ... .. . ”

0 ความคิดเห็น: