ฉันนั่งเครื่องบินกลับจากสนามบินดอนเมืองสู่จังหวัดขอนแก่น ทุกครั้งฉันจะได้กินอาหารอร่อยๆจากห้องอาหารที่สนามบิน แต่วันนี้จำใจต้องกินอาหารเย็นๆชืดๆ ฝากล่องอาหารที่มีรูปผู้หญิงใส่ชุดสีม่วงถูกเปิดออกมา พร้อมอาหารซึ่งประกอบไปด้วย อาหารชุดหลัก (ที่ฉันชอบเรียกว่า “อาหารเมรุ”) ของหวานและน้ำดื่ม อาหารเย็นชืดสำหรับวันนี้ ได้แก่ ไก่บดปั้นเป็นก้อนกลม มีผักสลัด แตงกวาและมะเขือเทศเป็นเครื่องเคียง มีข้าวเหนียวสังขยาเป็นของหวานและน้ำส้มอยู่คนละกล่อง ฉันราดน้ำจิ้มไก่ลงไปจนทั่วก้อนเนื้อก้อนนั้น และค่อยๆไสมีดลงบนเนื้อหั่นเป็นชิ้นเล็กๆก่อนจะใช้ส้อมพลาสติกจิ้มเนื้อเข้าปาก น้ำจิ้มใสรสชาติแปลกใหม่ไม่เหมือนที่เคยกิน ก็แปลกๆดี นี่แหละอาหารบนเครื่องบิน
ฉันกินไก่ราดน้ำจิ้มเข้าไปทีละคำด้วยความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เพราะนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างชายวัยกลางคนทั้งสองข้าง ข้างซ้ายเป็นชายชาวต่างชาติ ข้างขวาเป็นชายคนไทย สายตาของฉันแอบชำเลืองไปที่กล่องข้าวของชายต่างชาติ ด้วยความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นว่า ฝรั่งมันจะกินเหมือนเรารึเปล่า ปรากฏว่ามันกินไม่เหมือนเราจริงๆ สงสัยจะคิดว่าน้ำจิ้มไก้เป็นน้ำสลัด เลยเอาน้ำจิ้มไปราดลงบนผัก แทนที่จะราดลงบนเนื้อ ไม่เป็นไร เค้าคงไม่รู้ ชาติแต่ละชาติก็มีวัฒนธรรมการกินที่ต่างกันออกไปเป็นเรื่องธรรมดา “หวังว่าจะกินอร่อยนะคะ” ฉันแอบเย้ยหยันในใจเล็กน้อย
จากนั้นฉันก็หันไปมองข้างซ้ายในกล่องข้าวของชายคนไทยบ้าง แต่มันน่าแปลก ที่ชายคนไทยก็มีวัฒนธรรมการกินเหมือนฝรั่ง “ไอ้หมอนี่ สงสัยจะเข้าใจผิดเหมือนฝรั่ง เป็นคนไทยซะเปล่า ทำไมต้องเอาน้ำจิ้มไก่ไปราดผัก” ฉันคิดเช่นนั้น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบซองน้ำจิ้มขึ้นมาดูอีกครั้ง “Italian style dressing น้ำสลัดสไตล์อิตาเลี่ยน ส่วนประกอบที่สำคัญ : น้ำส้มสายชู,…..” ………………………….“!!!... มิน่าล่ะ น้ำจิ้มไก่มันถึงเปรี้ยว” ?
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น