โดย ทันตาภิบาล วัชรี วรรณชัย ฝ่ายทันตสาธารณสุข โรงพยาบาลสะเมิง
อำเภอสะเมิง....ชื่อนี้คงคุ้นหูใครๆ อยู่หลายคนเป็นอำเภอเล็กๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแหล่งปลูก สตรอเบอรี่ที่อร่อยที่สุดของประเทศ และยังเป็นแหล่งปลูกกล้วย ที่ใครไปใครมาก็ต้องถามถึงของฝาก ก็มิใช่อะไรที่ไหน ก็กล้วยแปรรูปของเรานี่เอง ไม่ว่าจะเป็น กล้วยอบ กล้วยฉาบ หลากชนิด และ กล้วยกวน รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปพืชผลทางการเกษตรที่สำคัญได้แก่ สตรอเบอรี่ ซึ่งในยุคปัจจุบันประชาชนได้หันมาสนใจ เรื่องของการส่งเสริมสุขภาพด้วยตนเอง อันที่จริงแล้วช่องปากของเราก็เป็นประตูสู่สุขภาพ เรากินอย่างไรก็ได้อย่างนั้น ( you are what you eat) ดังนั้น เรื่องอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากเราเรียนรู้ที่จะรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย ก็จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เรามีสุขภาพที่ดีได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
จากการที่พวกเราได้ไปประชุมวิชาการทันตาภิบาลภาคเหนือตาม โครงการคนภาคเหนือฟันดี ได้มีการฝึกภาคสนามสำรวจชุมชน ที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับความรู้และประสบการณ์อันมีค่าถึงภูมิปัญญาล้านนาที่สั่งสมในคนในชุมชนสืบทอดมาแต่ละรุ่น ชุมชนมีศักยภาพ มีความเข้มแข็งอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะมีวิธีการอย่างไรที่จะให้ชุมชนมาร่วมกันทำงานด้านส่งเสริมทันตสุขภาพกับพวกเรา เมื่อได้รับการจุดประกายจากทีมวิทยากรภาควิชาทันตกรรมชุมชน คณะทันตแพทยศาสตร์ มช. และ อ.อุทัยวรรณ กาญจนกามล แล้ว พวกเราทีมทันตสุขภาพ โรงพยาบาลสะเมิง ก็ลองนำวิชาที่ได้มาฝึกปฏิบัติ โดยเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ใช่ตัวผู้ประกอบการในชุมชนโดยตรง แต่เป็นเด็กนักเรียนที่เป็นลูกหลานของคนในชุมชนนั้นๆ
โดยเลือกกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนโรงเรียนทรายทองราษฏร์อุทิศ ก็ได้จัดกิจกรรมการสำรวจชุมชน ซึ่งเป็นในรูปของการสำรวจร้านค้า ร้านขายอาหาร มีการทำแผนที่และอภิปรายกลุ่มกันขึ้นมา โดยมีเครื่องมือสำคัญในการสำรวจคือขนมที่ตนเองชอบ และแผนที่ของร้านค้า โดยอาศัยความร่วมมือของ อสม. บ้านทรายมูล และ เจ้าของร้านค้าบริเวณในหมู่บ้านเอง ตลอดจนทรัพยากรบุคคลของชุมชนที่มีความรู้เรื่องโภชนาการเข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ และยังมีการศึกษาดูงานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรสวนกล้วย ในหัวข้อหลักสูตรท้องถิ่น เรื่อง “การถนอมอาหาร”
ซึ่งคุณครูได้มีการสอดแทรกงานด้านสุขภาพเข้าไปในการเรียนการสอนอยู่แล้ว ทำให้เด็กนักเรียนสามารถเลือกวิธีการถนอมอาหารที่ปลอดภัยต่อทันตสุขภาพโดยมีโมเดลในการศึกษาอยู่ที่ “ กล้วย ” ซึ่งจะแปรรูปอย่างไรมีประโยชน์ต่อร่างกายที่สุด ไม่หวานและเหนียวติดฟันอันเป็นสาเหตุให้เกิดโรคฟันผุ งานนี้ทั้งนักเรียน คุณครูและทีมวิทยากร ล้วนอิ่มกันถ้วนหน้าเนื่องจากประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรสวนกล้วยใจดี ให้ชิมกล้วยได้ฟรีๆ ไม่คิดเงินด้วยและยังมีความรู้กลับไปถ่ายทอดให้สมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ได้รู้ด้วย นับว่ายิงนกนัดเดียว ได้นกตั้งสองตัว นอกจากนั้น ยังได้มีการประกวดเมนูขนมอ่อนหวาน เด็กๆ ก็กระตือรือร้นในการประกวดเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ดัดแปลงสูตรขนมไทยให้เป็นขนมที่ส่งเสริมทันตสุขภาพ คือ หวานน้อย อร่อยมาก ...
และมีข้อแม้ว่าต้องใช้ผลไม้ที่ปลูกไว้ในโรงเรียนเท่านั้น เด็กๆก็ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการดัดแปลงขนม จนได้หน้าตาขนมที่น่ารับประทานอย่างเช่น ขนมกล้วย กล้วยบวชชี และ วุ้นมะม่วงสุก สังขยาฟักทอง งานนี้บอกได้คำเดียวว่าอิ่มถ้วนหน้าค่ะ จากการที่พวกเราได้เข้าไปทำงานในพื้นที่ในชุมชน ทำให้ทราบว่าชุมชนนั้นมีพลังที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ดีๆ ที่เราคาดไม่ถึง อย่างน้อยพวกเราก็ได้ทราบว่าการบูรณาการงานส่งเสริมทันตสุขภาพเข้ากับงานอื่นๆ เราก็ได้สูตรกล้วยอบผสมไอโอดีน และไม่ผสมน้ำตาลแต่หวาน....จับใจ อะเมซิ่งจริงๆค่ะ ใครอยากรู้ว่ากล้วยอบสะเมิงอร่อยแค่ไหนต้องลองมาชิมด้วยตัวเองแล้วค่ะ....
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น