ใครเคยไปชุมนุมทางการเมืองบ้างคะ บางก็เคยบ้างก็ไม่ แต่ไม่เป็นไรค่ะ การเมืองอยู่ในชีวิตประจำวัน การแสดงออกทางเมืองมีหลายทาง ไม่ใช่เพียงแค่การไปร่วมชุมนุมเท่านั้น สิ่งสำคัญที่เราทุกคนควรทำความเข้าใจคือความเป็นจริงที่ว่า เพราะเหตุใดจึงมีประชาชนกลุ่มหนึ่งมารวมตัวกันเพื่อแสดงความคิดเห็นและจุดยืนทางการเมือง
เสียงลืออื้ออึงว่าการชุมนุมทำให้สังคมไม่สงบไม่เรียบร้อย รถติด หุ้นตก นานาสารพัดจะกล่าวอ้างถึงเหตุโทษพิษภัยของการชุมนุม ก็ใช่ค่ะ จริงตามนั้นค่ะ ตามที่ทุกท่านได้รับรู้รับฟังผ่านสื่อฟรีทีวีที่ร่ำรวยด้วยโฆษณาจากบริษัทข้ามชาติ หรือจากการอ่านหนังสือพิมพ์หัวสีที่อยู่ภายใต้อำนาจเงินของทุนนิยมเสรี ได้ช่วยกันประหน่ำประโคมข่าวในทำนองนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน จนทำให้เพื่อนร่วมชาติติดมโนภาพลวงตาที่สรรค์สร้างปั้นแต่งจากจอทีวีมากเกินกว่าจะพยายามเข้าใจการเมืองของจริงบนท้องถนน แต่ฟรีทีวีไม่เคยบอกเพื่อนร่วมชาติถึงเหตุผลที่คนจำนวนมาก มานั่งมานอนบนท้องถนน
แล้วเพื่อนร่วมชาติหล่ะค่ะท่านสงสัยกันบ้างหรือไม่ ว่าเพราะเหตุใดคนมากมายเรือนหมื่นเรือนแสนจึงต้องเดินออกจากบ้านมาเรียกร้องความเป็นธรรมกลางถนน
ก็ในเมื่อตัวแทนที่เลือกไปไม่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนที่แท้จริง เราทุกคนจึงมีสิทธิชุมนุมทางการเมืองโดยตรงตามระบอบประชาธิปไตยค่ะ หลายๆท่านอาจไม่เห็นด้วยกับการพูดปราศรัยบนเวที ที่ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพบ้าง แต่ก็ไม่มากไปกว่าบางรายการในเช้าวันอาทิตย์เท่าใดนักนะคะ บางคนอาจบอกว่าเป็นการทำให้สังคมแตกแยก แต่สังคมไม่ยอมแยกความดีออกจากความชั่วให้ชัดกันเสียที
ฉันเข้าใจดีว่า สังคมบ้านเกิดเมืองนอนของฉันนี้มีความแปลกแตกต่างจากชนชาติอื่น เป็นสังคมที่ " รักสงบ " จนไม่อยากขยับเขยื้อนไปค้นหาความจริงว่าความขัดแย้งในบ้านเมืองเป็นผลสืบเนื่องมาจากอะไร บ้านนี้เมืองนี้เห็นเรื่องโกงเป็นเรื่องธรรมชาติ ชอบกวาดขยะซุกใต้พรม อมลมปาก ไม่กล้าพูด ไม่อยากแย้ง เห็นการประท้วงเป็นของต้องห้าม คนชุมนุมเพื่อจะไล่อาชญากรแผ่นดินพวกโกงชาติ กลับกลายเป็นผู้สร้างปัญหาสังคมและน่ารังเกียจ.. ทำไมหล่ะคะ..ทำไม !!!...เฮ้อ...ช่างเถิดค่ะ....ฉันขอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในบ้านในเมืองให้เพื่อนพี่น้องอ่านเล่นๆ เพื่อแสดงความคิดเห็นแสดงจุดยืนทางการเมืองอย่างชัดเจนเท่านั้น หากใครยังหาจุดยืนไม่เจอก็เชิญหากันต่อไปนะคะ
มาคุยถึงเหตุผลที่ประชาชนออกมาชุมนุมกันดีกว่า กว้างๆที่เห็นชัดๆก็เช่น ข้าวของแพง น้ำมันแพง สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ ไม่มีผู้เชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน เอานักโฆษณาไปดูการค้า เอาหมอไปดูแลเงินทำคูปองแจกคนจนหวังหาเสียงล่วงหน้า เอาคนทำทีมฟุตบอลไปคุมโรงงานยา ทำลายความหน้าเชื่อถือกระบวนการยุติธรรม...มีเป็ดที่ชอบชนไก่.....ฯลฯ ..... เหตุผลมีมากมายเหนือคำบรรยายค่ะ
โดยเฉพาะต้นกำเนิดอันว่าด้วยความเป็น อยู่ และคือของรัฐบาลชุดนี้นั้น เกี่ยวเนื่องผูกพันกันอย่างแยกแยะแกะไม่ออกกับพรรครัฐบาลเก่าที่โดนศาลตัดสินยุบพรรคไปแล้ว รัฐบาลชุดนี้มีผู้นำที่ประกาศตนทางวาจา ให้ทราบทั่วกันแล้วว่า ตนเองนั้นเป็นนอมีนีของอดีตผู้นำคนดังคนเดิมคนนั้น ซึ่งหลังจากโกงชาติจนโดนประชาชนกลุ่มใหญ่ขับไล่ออกจากบ้านเกิด ตกเป็นจำเลยแผ่นดิน ขณะนี้ยังไม่มีตำแหน่งแห่งที่ใดๆเป็นหลักแหล่งแน่ชัด มักจะลอยไปลอยมาร่ายเวทย์ชักใยลูกกรอกอยู่เบื้องหลัง ทำงานประจำเป็นนายหน้าคอยรับรองดูแลแขกบ้านแขกเมือง มีกิจกรรมพาแขกไปดูชาวนาปลูกข้าวบ้าง พาดูไบไปดูดอก เอ้ย...ไปทำสะพานบ้าง นั่นเป็นงานปัจจุบันของท่านนะคะ งานรับค่านายหน้าค้าแผ่นดิน แบ่งปันผลประโยชน์จากต่างชาติเนื้อๆเน้นๆ
มองแบบผิวเผินก็เยินยอกันได้นะคะ ว่าท่านช่างดีเหลือเกินพาต่างชาติมาลงทุนในบ้านในเมืองเรา อืมมม...มองอีกที.... เอ๊ะยังไงคะ.... ทำไปทำมาชาวนาที่เคยเป็นเจ้าของนาทำนาเอง ขายข้าวเอง ต่อไปก็จะไม่มีนาเป็นของตัวเอง เจ้าของนาจะกลายเป็นลูกจ้างแขก รับจ้างแขกปลูกข้าวในบ้านเมืองเราส่งไปให้เมืองแขกกิน ต่อไปแขกก็ไม่ต้องซื้อข้าวจากเราแล้วค่ะ แขกจะกลายเป็นเจ้าของนาทั้งผืนใหญ่ผืนเล็ก แขกจะแย่งน้ำเราไปทำนา แขกจะจ้างชาวนาชาวเราด้วยเศษเงินราคาถูก แล้วหอบข้าวหอมมะลิกลับไปนอนกินนั่งขายในเมืองแขก
...อืมมม...ค่ะ.... ก็จริงอย่างที่ใครบางคนว่าไว้ ใครปลูกข้าวกลางทะเลทรายก็บ้าแล้ว เมื่อแขกมีเงินถุงเงินถังจากการค้าน้ำมัน จะเจียดเงินเล็กน้อยมาจ้างคนจนปลูกข้าว บนผืนนาผืนดินที่มีนายหน้าหาช่องทางให้แขกเช่านาปลูกข้าวดีกว่าจริงไหมหล่ะคะ....ใครกันเอ่ย...ที่พาแขกมาปลูกข้าว คราวก่อนท่านโกงชาติ คราวนี้ท่านคิดจะขายชาติกันเลยเชียวหรือ ?? ร้านค้าปลีกก็ตายไปอย่างช้าๆ เกษตรกรก็นอนรอความตายกันเห็นๆ หากเกิดกับวิชาชีพเราบ้างเราจะรู้สึกอย่างไร ผลของ FTA การค้าเสรีที่ไม่เป็นธรรมเป็นเช่นใดโปรดตรองดูเถิด
ฉันได้เล่าเรื่อยๆถึงคนดังผู้เปิดประตูเมืองให้ต่างชาติมาตักตวงผลประโยชน์เหนือผืนแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนของฉันไปแล้ว กลับมาคุยกันถึงรัฐบาลยุคนี้ซึ่งสืบสายโลหิตมาจากพรรคเก่าของท่านคนดังที่ถูกยุบไปกันบ้างนะคะ หรืออาจเรียกง่ายๆว่า รัฐบาลนอมินี ฉันว่ารัฐบาลนอมินีมีปัญหาทางด้าน "จริยธรรม" มากเกินกว่าจะยอมรับได้ เริ่มกันตั้งแต่รัฐบาลนอมีนี ซึ่งมีที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ใครมีคะแนนเสียงข้างมากใครได้รับเลือกตั้งมากที่สุดจะได้จัดตั้งรัฐบาล มีกระแสข่าวถึงการโกงการเลือกตั้งครั้งใหญ่นี้ โดยการใช้เงินซื้อทุกระดับ ทั้งองค์กร ทั้งผู้คน ไม่ใช่เพียงแค่เพราะข้อมูลที่ประชาชนผู้ใช้สิทธิทั่วประเทศได้รับไม่เท่ากันเท่านั้น แต่มีการโกงกันทั้งระบบทุกวิถีทางอีกด้วย เมื่อมีการลงทุนซื้อ ก็ต้องมีการถอนทุนคืน ดังนั้นรัฐบาลที่ได้ก็ไม่ใช่รัฐบาลที่แท้จริง "รัฐบาลนอมินี" ไม่ได้มีวัตถุประสงค์สมัครรับเลือกตั้งเพื่อทำหน้าที่ปกครองที่แท้จริง แต่เป็นร่างทรงของคนอื่นเข้ามาปกป้องผลประโยชน์เท่านั้น
รัฐบาลนอมีนีเข้ามาปกป้องผลประโยชน์อย่างไร อย่างที่เล่าให้ฟังมาแล้วว่า ชายคนหนึ่งซึ่งคุณก็รู้ว่าใคร เป็นผู้มีอำนาจเหนือรัฐบาลที่มีผู้เฒ่าหน้าตาหน้ากลัวเป็นหัวหน้ารัฐบาล ชายคนนี้เป็นจำเลยคดีโกงชาติอยู่หลายคดี รวมๆแล้วโกงเงินแผ่นดินไป เกือบ 3 แสนล้านบาท... เงิน 3 แสนล้านบาททำอะไรได้บ้างจ๊ะ ถ้านำไปใช้พัฒนาชาติจะมีประโยชน์มากกว่าโกงชาติไปซื้อทีมฟุตบอลหรือไม่….ชายหนึ่งเดียวคนนั้นกล้าโกงเงินแผ่นดินไปเกือบ 3 แสนล้านในช่วงชีวิตไม่ถึง 10 ปี ด้วยนโยบายประชานิยมสมอุรา เทเงินเข้าไปในหมู่บ้าน ชาวบ้านหน้าบานสดชื่นแจ่มใส เกิดมาไม่เคยเป็นหนี้ก็ได้เป็นหนี้ เย้ๆ มีเงินที่กู้มานอนเย็นๆเห็นๆอยู่ในกระเป๋า
เอ๊า...นั่น...เขาโฆษณามือถือรุ่นใหม่ นั่นไงรถยนต์รุ่นใหม่ นั่นใช่ไหมบ้านใหม่หลังใหญ่ เงินในกระเป๋าเราก็มีนี่นา แต่เงินใครหนอเงินใคร ก็เงินกู้เงินหนี้นั่นไง กู้ใครหนอกู้ใคร กู้กองทุนที่มาจากเงินภาษี หรือกู้ธนาคารพาณิชย์นั่นไงใครถือหุ้นใหญ่ หุ้นใครหนอหุ้นใคร หุ้นต่างชาติอีกแร๊ะ แบ๊ะๆ แพะจนๆคนมีหนี้มือใหม่จำต้องจ่ายเครื่องราชบรรณาการใช้หนี้ให้ต่างชาติหัวโตๆ โอ้ลั้ลล๊า แล้วใครหนอใครได้เงินเข้ากระเป๋าบานตะไท หลังจากมีคนเป็นหนี้เงินกู้ทั่วแผ่นดิน กู้มาซื้อมือถือ ซื้อรถ ซื้อบ้าน เจ้าของมือถือ เจ้าของรถยนต์ เจ้าของหมู่บ้าน นั่งหน้าบานเป็นพานทองแดงอยู่ในสภาฯ เงินคนจนไหลมาเทมาเข้ากระเป๋านักการเมืองผู้คิดนโยบายประชานิยมสมอุราแล้วเจ้าข้าเอ๋ย
ต้องช่วยกันชื่นชมว่าเป็นความสามารถพิเศษของชายคนนั้น ในการคิดค้นระบบนโยบายแห่งชาติที่เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเองและพวกพ้อง นโยบายแห่งชาติผันเงินภาษีของประชาชนทุกชนชั้นเข้าสู่กระเป๋านักการเมือง จะเห็นชัดว่าการเมืองเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราทุกคน น้ำมันขึ้นทุก 3 วันเน้นปันกำไรผู้ถือหุ้น ประชาชนไม่มีหุ้นจ่ายแพงตามแพง น้ำตาลขึ้นราคากิโลกรัมละ 5 บาท ข้าวขึ้นราคา 100% ชาวไร่อ้อย ชาวนาไม่ได้รวยขึ้น แต่เป็นนักการเมืองกับนายทุนหรือ นอมินีทุนข้ามชาติได้เงินเพิ่มขึ้น และรวยขึ้นเป็นหมื่นล้านจากเงินน้อยๆของคนเล็กๆที่ต้องจ่ายเงินซื้อข้าว ซื้อน้ำตาล ซื้อน้ำมัน ทั่วประเทศกว่า 60 ล้านคนเข้ากระเป๋าคนเพียงกลุ่มเดียว กลุ่มที่มีศูนย์กลางเครือข่ายเป็นชายคนหนึ่งซึ่งคุณก็รู้ว่าใคร
ชายคนนี้เป็นชายคนเดียวกับคนที่อยู่หลังฉากรัฐบาลนอมินี ผู้ที่คอยบัญชาการขัดขวางไม่ให้กระบวนการยุติธรรมเกิดขึ้นในบ้านนี้เมืองนี้ โดยกระทำการทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ตนเองถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย และวิธีที่ง่ายที่สุดในการหนีคดีหนีความผิดที่ติดตัวคือแก้กฏหมาย ต้องหาทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ให้จงได้ ฉันได้ยินอดีตรัฐมนตรีที่มีจริตอิตถีคนนั้น บอกกับฟรีทีวีว่าถ้าแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ถือว่าเสียชาติเกิด...โอ๊ะ โอ...ฉันฟังแล้วตกใจ ให้สงสัยว่าเพราะเหตุใดไฉนหนอรัฐบาลนอมินี จึงต้องเร่งรีบแก้รัฐธรรมนูญถึงเพียงนั้น
ภายหลังทราบว่าพวกเขาต้องการแก้มาตรา 237 เพื่อหนีคดียุบพรรคเนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลโกงการเลือกตั้งจึงได้เข้ามานั่งถอนทุนคืนเก็บเบี้ยใต้ถุนสภาฯ และตัดมาตรา 309 จัดการกับ คตส. (คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ) เพื่อขัดขวางไม่ให้อดีตผู้นำต้องขึ้นศาลด้วยคดีโกงชาติ..นาร๊าย..นารายณ์...ชาวประชาจะทำอย่างไรกันดี...เมื่อกฏหมายอยู่ใน มือโจร....ในฐานะที่ฉันเป็นผู้เสียภาษี...ในฐานะที่ฉันไปเลือกตั้งทุกครั้ง
ขอถามว่า เพราะเหตุใดชายผู้นั้นจึงไม่กล้าขึ้นศาลเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตนเองว่าไม่ได้รวย ล้นฟ้าเพราะโกงชาติโกงแผ่นดิน เพราะเหตุใดสังคมจึงไม่ร่วมกันผลักดันให้จำเลยคดีโกงชาติเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนแล้วจึงค่อยแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเหตุใด ??
อ่านเล่นๆให้เย็นใจค่ะ บางท่านอาจมองว่า เลือกข้าง ต๊ายตาย...เขียนผ่านสื่อต้องเป็นกลางเลือกข้างชัดเจนเกินไปไหมนั่น ว๊า...ตัวเองจ๊ะ...รักนะ จุ๊บๆ...ขอเรียนตรงไปตรงมาว่าเลือกข้างกันเถอะ อย่านิ่งเฉยเลยตามเลยให้คนชั่วได้ใจ เลือกข้างความดีให้ชัดเจนให้คนชั่วกลัวใจ เลือกข้างให้รู้กันไปว่าเราต้องการสังคมที่รักษาความดีเพื่อเป็นมรดกแก่ลูกหลาน เงินซื้อความดีไม่ได้ สังคมเราไม่สนับสนุนคนชั่ว ไม่มีใครครอบงำใครให้คล้อยตามได้ง่ายๆคนอย่างฉันไม่มีใครสั่งได้ รู้ไว้ด้วย แต่คนชั่วที่ทำชั่วไม่สามารถตอบข้อกล่าวหาของคนในสังคมได้เลย ทำไม ???
ตราบใดที่สังคมไม่ยอมเปลี่ยน ประชาชนไม่สนใจการเมือง ก็ยังคงมีการฉ้อราษฎร์บังหลวงของผู้นำประเทศ นำมาซึ่งความแตกแยกในบ้านเมืองต่อไปและต่อไป ถึงเวลาหรือยังจ๊ะ ที่เราทุกคนจะตื่นตัวทางการเมืองและเรียนรู้การเมืองภาคประชาชน ร่วมสร้างสรรค์สังคมใหม่ด้วยมือของเราเองกันเสียที เราประชาชนเป็นผู้เลือกนักการเมืองมาเป็นผู้แทนราษฏร ก่อนจะเข้าสภาฯ มายกมือไหว้ พอได้เข้าสภาฯไปแล้วไม่เคยปรายตามาดูดำดูดี พอคุ้นๆไหมจ๊ะ
ฉันคิดว่า เราประชาชนมีหน้าที่ในการติดตามผลงานของผู้แทนที่เราเลือกเข้าสภาฯด้วยนะคะ แค่ " กากบาท " ไม่เพียงพอสำหรับการพัฒนาประชาธิปไตยในสังคมของเราค่ะ เราประชาชนมีสิทธิในการถอดถอนผู้แทนราษฏรที่ไม่มีธรรมาภิบาลให้พ้นจากสภาฯได้ด้วยค่ะ นโยบายการเมืองมีผลต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่เกิดจากครรภ์มารดาจนถึงเชิงตะกอน อาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ได้บอกกล่าวเรื่องนี้ต่อสังคมมานานหลายปีแล้ว แต่คนส่วนใหญ่ ไม่ใส่ใจ หลงลืมไปคล้ายดั่งปลาซึ่งลืมน้ำ
ฉันเชื่อเสมอว่า ใครๆก็รักชาติกันทั้งนั้นค่ะ ไม่มีใครเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนเพียงเล็กน้อย ไม่มีใครต้องการสูญเสียความเป็นรัฐชาติผ่านนโยบายทุนนิยม ตีเมืองขึ้น ขายบริษัทน้ำมันเข้าตลาดหุ้นไปแล้วน้ำมัน แพงแสนแพง ต่อไปอาจขายน้ำขายไฟเข้าตลาดหุ้นไปอีก เราไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่ ฉันเองหาเลี้ยงชีพจาก ความกรุณาของประชาชน ฉันไม่ได้รับเงินเดือนจาก เงินภาษีของประชาชน ไม่ได้รับเงินเดือนจากบริษัทร่วมทุนข้ามชาติและไม่ได้เล่นหุ้น ฉันรับเงินบาทจากคนเดินดินทั่วๆไป ที่บางคนไม่มีเงินรายได้มากพอจะเสียภาษีเสีย ด้วยซ้ำ แต่ได้กรุณาไว้วางใจจ้างฉันทำงาน เมื่อประชาชนเดือดร้อนทุกข์ยาก ถูกนโยบายการเมืองทำร้าย ประชาชนออกจากบ้านไปชุมนุมเดินขบวน ฉันไปเดินปะปนกับพวกเขา ยิ่งต้องคารวะจิตใจนักสู้ สู้ฝน สู้แดด สู้เพื่อเรียกร้องชีวิตที่ดีกว่าของประชาชน
ฉันตระหนักชัดว่า ความเป็นไทของประเทศชาติ ประชาชน และตัวฉันเองต้องเกิดขึ้นได้แน่นอน เมื่อพวกเราทุกคนกล้าเปลี่ยนแปลง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น